นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. เปิดเผยภายหลังทราบผลเอ็กซิทโพลว่ามีคะแนนนำเหนือผู้สมัครรายอื่นๆ ว่า ต้องขอขอบคุณประชาชนทุกคนที่มอบความไว้วางใจให้ อย่างไรก็ตามต้องรอฟังผลการนับคะแนนอย่างเป็นทางการจาก กทม.ก่อน ซึ่งทีมงานของตนก็ได้ติดตามผลสำรวจต่างๆ อย่างใกล้ชิด ทุกๆ 3 เดือนโดยส่วนใหญ่จะติดตามว่าประชาชนตัดสินใจเลือก หรือไม่เลือกตนเพราะอะไร เพื่อนำมาปรับปรุงการทำงาน ซึ่งการติดตามดังกล่าวเป็นประโยชน์ต่อประชาชนมากที่สุด
นายอภิรักษ์ กล่าวอีกว่า สำหรับสาเหตุที่ทำให้ตนได้รับความไว้วางจากประชาชนใน กทม.สูงสุด เป็นผลมาจากตนเป็นผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.ในนามของพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งมีสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร(สก.) และสมาชิกสภาเขต(สข.) ทำงานใกล้ชิดกับประชาชนในพื้นที่
นอกจากนี้จากการผลสำรวจพบว่าประชาชนมีความพึงพอใจกับผลงานที่ผ่านมา และ ประชาชนพอใจกับนโยบายที่นำเสนอในครั้งนี้ ซึ่งนโยบายบางส่วนเป็นนโยบายต่อเนื่องจากจากการดำรงตำแหน่งผู้ว่าฯ กทม.สมัยที่ผ่านมา และส่วนหนึ่งเป็นนโยบายที่นำเสนอขึ้นมาใหม่
ส่วนการได้รับเลือกตั้งครั้งนี้ แสดงให้เห็นว่าการเมืองสนามใหญ่มีผลต่อการตัดสินใจของประชาชนด้วยใช่หรือไม่ นายอภิรักษ์ กล่าวว่า การเมืองสนามใหญ่อาจจะมีผลบ้าง แต่ไม่มาก เนื่องจากประชาชนส่วนใหญ่จะเลือกจากเหตุผลว่าต้องการเข้ามาทำงาน และเขาต้องให้ทำอะไร เพราะการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.คือการเมืองท้องถิ่น ต่างจากการเมืองสนามใหญ่ที่มีปัจจัยอื่นๆ เข้ามาเกี่ยวข้องอีกมาก
สำหรับปัญหาที่ถูกร้องเรียนอยู่ในคณะกรรมการการเลือกตั้งนั้น นายอภิรักษ์กล่าวว่า ไม่รู้สึกหนักใจในกรณีดังกล่าว เพราะตนเคารพกฎหมาย และปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัดมาตลอด ดังนั้น เรื่องที่ถูกร้องเรียนต่างๆ นั้น มั่นใจว่าชี้แจงได้ ซึ่งก็มีกระบวนการตรวจสอบที่มีความเป็นธรรม และจะมีผลออกมาอย่างรวดเร็ว อีกทั้งก็ได้ชี้แจงกับประชาชนในระหว่างที่หาเสียงอยู่แล้ว
และหากมีโอกาสได้รับการรับรองจาก กกต.อย่างเป็นทางการก็จะเร่งผลักดันโครงการให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น และเชื่อว่าจะทำงานได้อย่างต่อเนื่อง รวดเร็ว เพราะหลายๆ โครงการได้ดำเนินการมาระยะหนึ่งแล้ว และตนจะทำงานเชิงรุก ดึงองค์กรเครือข่ายต่างๆ เข้ามาร่วมกันแก้ปัญหาใน กทม. และสร้างกรุงเทพฯ ให้เป็นเมืองน่าอยู่ต่อไป"นายอภิรักษ์กล่าว
นายอภิรักษ์ กล่าวอีกว่า การที่รัฐบาลชุดปัจจุบันเป็นรัฐบาลของพรรคการเมืองที่อยู่ฝ่ายตรงข้ามนั้น ตนคิดว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไรในการทำงาน และหากทำงานร่วมกันได้ก็จะเกิดประโยชน์ต่อประชาชน โดยเฉพาะปัญหาใหญ่ คือ ระบบขนส่งมวลชน
"ในระยะยาวควรมีการแก้กฎหมาย เพื่อกระจายอำนาจให้ผู้ว่าฯ กทม.มีอำนาจในการตัดสินใจแก้ปัญหาได้โดยตรง ซึ่งจะทำให้การทำงานเป็นไปอย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น และผมพร้อมจะทำงานร่วมกับรัฐมนตรีทุกคน"นายอภิรักษ์ กล่าว
--อินโฟเควสท์ โดย เสาวลักษณ์ อวยพร โทร.0-2253-5050 ต่อ 353 อีเมล์: saowalak@infoquest.co.th--