(เพิ่มเติม) แกนนำรุ่น 2 นำกลุ่มพันธมิตรชุมนุมหน้ารัฐสภาขยายวงขวางรัฐบาลแถลงนโยบาย

          แกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย รุ่น 2 เคลื่อนไหวชุมนุมหน้ารัฐสภานับพันคนคัดค้านแก้ไขรธน.ตามแนวทางที่รัฐบาล หวั่นรัฐบาลอาศัยช่องแก้ไข ม.237  และ ม.309 เพื่อฟอกความผิดพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี
          แกนนำพันธมิตรฯขึ้นปราศรัยแถลง โดยมอบหมายให้แกนนำรุ่น 2 ซึ่งประกอบด้วย นายศิริชัย ไม้งาม ,นายสาธิต แก้วหวาน  และ นายสำราญ รอดเพชร เคลื่อนขบวนผู้ชุมนุมส่วนหนึ่งออกจากทำเนียบรัฐบาลเพื่อไปชุมนุมไปหน้ารัฐสภา ขณะที่พรุ่งนี้รัฐบาลจะเริ่มแถลงนโยบายต่อรัฐสภาเป็นวันแรก โดยกลุ่มพันธมิตรฯได้ปิดขวางทางเข้าออกและคาดว่าจะเข้ามาสมทบจนถึงพรุ่งนี้เช้า 
          เมื่อเวลาประมาณ 20.30 น.กลุ่มพันธมิตรฯ ประมาณ 5 พันคนได้รวมตัวกันเต็มพื้นที่หน้ารัฐสภาแล้ว ขณะที่นายพิภพ ธงไชย แกนนำพันธมิตรฯ ที่กล่าวปราศรัยบนเวทที่ทำเนียบได้ประกาศให้แนวร่วมพันธมิตรฯ ที่มาจากต่างจังหวัดเดินทางไปที่หน้ารัฐสภา
          นายศิริชัย ไม้งาม แกนนำพันธมิตรฯ รุ่นที่ 2 กล่าวว่า พันธมิตรฯ ต้องการขัดขวางไม่ให้รัฐบาลแถลงนโยบายในวันพรุ่งนี้ เนื่องจากรัฐบาลหมดความชอบธรรมในการบริหารประเทศ เพราะเข้ามาโดยการซื้อสิทธิขายเสียง และกระทำผิดกฎหมายในการลงนามในแถลงการณ์ร่วมกับทางกัมพูชาในกรณีเขาพระวิหาร อีกทั้งกำลังผลักดันให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อซักฟอกให้กับพวกพ้อง
          แกนนำฯ ได้แจ้งให้ผู้ชุมนุมยึดแนวทางอหิงสา ชุมนุมด้วยความสงบ ยืนยันว่าจะไม่ใช้ความรุนแรง และไม่บุกเข้าไปภายในรัฐสภา เนื่องจากพันธมิตรฯ ไม่ต้องการให้รัฐบาลบริหารประเทศ และไม่ยอมรับรัฐบาลที่นำโดยนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี ส่วนการมีอุปกรณ์เพื่อการป้องกันตัวคงจะมีบ้างเป็นเรื่องธรรมดา  
          สำหรับแถลงการณ์ของกลุ่มพันธมิตรฯ ระบุว่า รัฐบาลหุ่นเชิดที่ขาดความชอบธรรม ยังคงไม่แสดงความสำนึกและยังคงดื้อรั้นที่จะบริหารประเทศชาติต่อไป เราจึงขอความเห็นจากพี่น้องประชาชนที่เข้ามาร่วมชุมนุมถึงสถานการณ์ที่กำลังจะเกิดขึ้นใน 2 ประเด็น
          ประเด็นที่หนึ่ง รัฐสภาได้รับร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญจากคณะกรรมการประชาชนเพื่อแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ 2550 หรือ คปพร.(นปก.เดิม) และพบว่า สาระสำคัญของร่างแก้ไขฉบับดังกล่าวมุ่งหมายที่จะฟอกความผิดให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และพวกพ้อง ทั้งมาตรา 237 และมาตรา 309 ประการสำคัญ ยังพบว่า มีความพยายามทำลายสถาบันองคมนตรี ซึ่งเท่ากับเป็นการบั่นทอนโครงสร้างระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
          ประเด็นที่สอง รัฐบาลชุดปัจจุบันเป็นรัฐบาลหุ่นเชิดที่ขาดความชอบธรรมในการบริหารประเทศ ด้วยเหตุผลดังต่อไปนี้ ถ่วงเวลาในการดำเนินคดีกับผู้ที่ดูหมิ่นสถาบันพระมหากษัตริย์ และขบวนการทำลายความน่าเชื่อถือของสถาบันพระมหากษัตริย์ และมีพฤติกรรมที่พยายามฟอกความผิดให้กับระบอบทักษิณมาโดยตลอด
          ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ไม่ดำเนินการยกเลิกหนังสือเดินทางให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ และไม่แสดงความพยายามในการนำตัว พ.ต.ท.ทักษิณ และครอบครัวมาขึ้นศาล , ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ไม่ยกเลิกแถลงการณ์ร่วมระหว่างไทย-กัมพูชา ที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญมาตรา 190 
          ปล่อยให้คนที่ร่วมในคณะรัฐมนตรีของ นายสมัคร กลับมาเป็นผู้ที่ร่วมคณะรัฐบาลของนายสมชาย ,ปล่อยให้ผู้ที่ถูกเพิกถอนสิทธิในการเลือกตั้งหรือบุคคลใน 111 คนที่เคยเป็นอดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย ให้เข้ามามีบทบาทและชี้นำการจัดตั้งรัฐบาล,
          พันธมิตรฯ จึงขอฉันทามติของพี่น้องประชาชนที่เข้ามาชุมนุมใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญ “ขยายพื้นที่การชุมนุม" โดยการเคลื่อนขบวนไปแสดงสัญลักษณ์ที่หน้ารัฐสภาอย่าง สงบ อหิงสา และปราศจากอาวุธ