รอง ผบช.น.ปัดข่าวตำรวจใช้ระเบิดสลายม็อบ ยืนยันใช้แก๊สน้ำตาอย่างเดียว

           พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล(รอง ผบช.น.) ปฏิเสธข่าวเจ้าหน้าที่ตำรวจใช้วัตถุระเบิดในการเข้าปฏิบัติการสลายการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยที่ปิดล้อมอาคารรัฐสภาเมื่อวานนี้(7 ต.ค.) โดยยืนยันใช้แก๊สน้ำตาเป็นเครื่องมือเพียงอย่างเดียว
          "ยืนยันว่าเจ้าหน้าที่ที่เข้าสลายการชุมนุมใช้เพียงแก๊สน้ำตาเท่านั้น ขอให้ประชาชนใช้วิจารณญาณด้วย" พล.ต.ต.อำนวย กล่าวชี้แจงทางรายการโทรทัศน์เช้านี้เกี่ยวกับภาพข่าวเจ้าหน้าที่ตำรวจขว้างวัตถุคล้ายระเบิดมือเข้าใส่กลุ่มผู้ชุมนุม
          ตั้งแต่ช่วงเช้าตรู่วานนี้(7 ต.ค.) เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าสลายการชุมนุมที่ปิดล้อมอาคารรัฐสภา เพื่อเปิดทางให้สมาชิกรัฐสภาเข้าประชุมเพื่อรับฟังการแถลงนโยบายของรัฐบาล ทำให้เกิดการปะทะกันต่อเนื่องหลายครั้งจนถึงช่วงค่ำเป็นเหตุให้มีกลุ่มผู้ชุมนุมได้รับบาดเจ็บเป็นจำนวนมาก โดยมีผู้ชุมนุมบางคนได้รับบาดเจ็บสาหัสแขน-ขาขาด และเสียชีวิต
          พล.ต.ต.อำนวย กล่าวว่า ก่อนหน้านี้สื่อมวลชนเคยเสนอภาพเจ้าหน้าที่ตำรวจใช้ปืนจ่อหัวผู้ชุมนุม ซึ่งเป็นปืนปากกระบอกยาวไม่ใช่ปืนยิงแก๊สน้ำตา และก่อนที่จะมีการสลายการชุมนุมเมื่อวานนี้ เจ้าหน้าที่ได้เข้าเจรจากับแกนนำหลายครั้งแล้วแต่ไม่เป็นผล ขณะที่กลุ่มผู้ชุมนุมใช้น้ำมันราดยางรถยนต์เก่าที่นำมาวางเรียงขวางถนนไว้ ซึ่งหากมีการจุดไฟก็จะกลายเป็นเหตุจลาจลรุนแรงได้จึงจำเป็นต้องสลายการชุมนุม
          สำหรับการปฏิบัติการครั้งนี้มี พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.) คอยสั่งการอยู่ตลอด และเจ้าหน้าที่ตำรวจพยายามใช้ความละมุนละม่อมแล้ว แต่เนื่องจากกลุ่มพันธมิตรฯ มีอาวุธพยายามเข้าประชิดตัวก็จะเกิดอันตรายและทำงานลำบาก
          "ที่แกนนำพันธมิตรฯ ปราศรัยว่าผู้ชุมนุมทุกคนมามือเปล่า ไม่มีอาวุธต่อสู้กับเจ้าหน้าที่นั้น คำพูดดังกล่าวไม่เป็นความจริง" พล.ต.ต.อำนวย กล่าว
          โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจถูกกลุ่มพันธมิตรฯ ใช้ด้ามธงที่ดัดแปลงเป็นอาวุธปลายแหลมแทงจนได้รับบาดเจ็บสาหัส นอกจากนี้ยังมีอาวุธปืน ท่อนเหล็ก ท่อนไม้ ลูกแก้ว ลูกเหล็ก รวมทั้งระเบิดปิงปองที่ขว้างเข้ามาในกองบัญชาการตำรวจนครบาล และมีเจ้าหน้าที่ถูกยิงด้วยอาวุธปืนที่แยกพิชัยด้วย
          พล.ต.ต.อำนวย กล่าวว่า ขณะนี้มีความกังวลว่าเครือข่ายพันธมิตรในต่างจังหวัดจะเดินทางมาร่วมชุมนุมที่กรุงเทพฯ เพราะแนวทางขณะนี้ไม่ได้เป็นไปในลักษณะสันติวิธี ดังนั้น อย่าเชื่อคำยั่วยุ และให้ระวังมือที่สาม อย่างกรณีเหตุระเบิดรถจี๊ปที่ยังไม่ทราบว่าเป็นการกระทำของใคร