นายกฯ เชื่อสลายม็อบวานนี้ไม่ได้ทำให้ประตูการเจรจากลุ่มพันธมิตรฯ ปิดตาย

          นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เหตุการณ์ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจใช้แก๊สน้ำตาเข้าสลายการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยบริเวณโดยรอบรัฐสภา และตอบโต้การเข้าปะทะของกลุ่มพันธมิตรฯ ที่หน้ากองบัญชาการตำรวจนครบาล(บช.น.)เมื่อวานนี้ ไม่ได้เป็นการปิดโอกาสในการเจรจากับกลุ่มพันธมิตรฯ    
          "ไม่มีอะไรปิดประตูตาย"นายสมชาย กล่าว 
          นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สาเหตุที่เจ้าหน้าที่ต้องตัดสินใจเข้าสลายการชุมนุมเมื่อวานนี้ เนื่องจากเห็นว่ากลุ่มผู้ชุมนุมฯ ต้องการเข้ามายึดรัฐสภา และเจตนาไม่ได้ต้องการชุมนุมด้วยความสบ เพราะเห็นได้จากการที่เจ้าหน้าที่ตำรวจหลายคนได้รับบาดเจ็บจากอาวุธชนิดต่าง ๆ 
          "เหตุการณ์เมื่อวานนี้ ทางพันธมิตรฯต้องการเข้ามายึดรัฐสภา เจ้าหน้าที่ตำรวจใช้แก๊สน้ำตาก็เป็นไปตามหลักสากล เจ้าหน้าที่ก็บาดเจ็บเป็นจำนวนมาก ทั้งถูกปืนยิง ทั้งถูกเหล็กแทง คนที่มาชุมนุมไม่ได้มาชุมนุมด้วยความสงบ" นายสมชาย กล่าวหลังจากเข้าเยี่ยมอาการเจ้าหน้าที่ที่ได้รับบาดเจ็บ ที่ รพ.ตำรวจ จากปฏิบัติการวานนี้
          ทั้งนี้ ในการหารือกับทูตประเทศต่างๆ ที่ประจำอยู่ในประเทศไทยเช้าวันนี้ ก็ได้มีการชี้แจงสถานการณ์ต่าง ๆ ให้รับทราบ ซึ่งผู้ที่เข้ารับฟังข้อมูลส่วนใหญ่ต่างเข้าใจสถานการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นอย่างดี และรัฐบาลมั่นใจว่าจะสามารถควบคุมสถานการณ์ให้ดีขึ้นได้ และจะยึดหลักดำเนินการตามกฎหมาย 
          ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่นายสมชาย เสร็จสิ้นการเยี่ยมเจ้าหน้าที่และเดินออกมาขึ้นรถหน้าโรงพยาบาลตำรวจ ปรากฎว่ามีหญิงคนหนึ่งอายุประมาณ 40 ปี มายืนรอระหว่างทางแล้วนำมือตบของกลุ่มพันธมิตรฯ ชูขึ้นพร้อมกับตะโกนว่า"ทรราชย์ สมชายยิงประชาชน"