นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ชี้แจงนโยบายรัฐบาลต่อคณะทูตานุทูตและหัวหน้าองค์การระหว่างประเทศ โดยยืนยันจะสร้างความเชื่อมั่นให้กับระบอบการเมืองไทยที่ยึดการปกครองระบอบประชาธิปไตยในระบบรัฐสภาและหลักแห่งกฏหมาย มุ่งฟื้นฟูพลวัตรทางเศรษฐกิจ ตลอดจนให้ความเคารพและยึดมั่นในพันธกรณีต่างๆ ในกรอบของกฎหมายระหว่างประเทศ
"รัฐบาลของข้าพเจ้าถือเป็นภาระหน้าที่ที่จะสร้างความเชื่อมั่นต่อระบอบการเมืองไทย โดยจะยึดมั่นในการปกครองระบอบประชาธิปไตยในระบบรัฐสภาและหลักแห่งกฏหมาย" นายสมชาย กล่าว
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลจะแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นภายในประเทศด้วยวิถีทางประชาธิปไตย และจะบริหารประเทศอย่างดีที่สุดเพื่อให้บรรลุความปรารถนาของประชาชนไทยในการเสริมสร้างความเป็นปึกแผ่นและความปรองดองสมานฉันท์ ประเทศไทยเป็นสังคมที่มีความเข้มแข็งและสามารถผ่านมรสุมทางการเมืองในอดีตที่ผ่านมาได้อย่างมั่นคง
"รัฐบาลของข้าพเจ้าได้แถลงนโยบายต่อรัฐสภาเมื่อวานนี้ แม้จะมีเหตุการณ์วุ่นวายจากกลุ่มคนบางกลุ่มที่พยายามขัดขวางไม่ให้มีการประชุมรัฐสภาแต่เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้ดำเนินการไปตามกฎหมาย ทำให้สถานการณ์ดำเนินไปด้วยความราบรื่น รัฐบาลของข้าพเจ้าจึงสามารถดำเนินการตามนโยบายต่างๆ ได้ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป" นายสมชาย กล่าว
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลมีความมุ่งหวังที่จะฟื้นฟูพลวัตรทางเศรษฐกิจของไทย โดยจะกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อลดความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นจากความผันผวนทางการเงินของโลกในปัจจุบัน ขณะเดียวกันรัฐบาลจะเดินหน้าส่งเสริมนโยบายการค้าและการลงทุนตามกลไกตลาด
"รัฐบาลจะทำงานอย่างหนักเพื่อฟื้นฟูความเชื่อมั่นของภาคธุรกิจ จะสร้างบรรยากาศที่เอื้ออำนวยต่อการลงทุน และต้อนรับการลงทุนจากต่างประเทศ" นายสมชาย กล่าว
นายกรัฐมนตรี ยังยืนยันว่า ประเทศไทยจะยังคงเคารพและยึดมั่นในพันธกรณีต่างๆ ในกรอบของกฎหมายระหว่างประเทศ กฏบัตรสหประชาชาติ สมาคมประชาชาติอาเซียน ตลอดจนความร่วมมือทวิภาคีที่มีอยู่กับมิตรประเทศทั่วโลก โดยจะส่งเสริมและขยายความสัมพันธ์ฉันท์มิตรกับทุกประเทศและองค์การระหว่างประเทศทุกแห่ง
และในฐานะที่ประเทศไทยเป็นประธานอาเซียนมีความพร้อมที่จะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมสุดยอดอาเซียนและการประชุมที่เกี่ยวข้องในเดือน ธ.ค.นี้ โดยขณะนี้การเตรียมการต่างๆ มีความคืบหน้าไปตามตารางเวลาที่กำหนดไว้
"ประเทศไทยจะทำหน้าที่เจ้าภาพการประชุมอันสำคัญยิ่งนี้ให้สมกับชื่อเสียงและเกียรติภูมิของประเทศไทย สำหรับข้าพเจ้าเองก็พร้อมที่จะดำเนินบทบาทในการนำอาเซียนไปสู่การสร้างภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่รุ่งโรจน์และเป็นปึกแผ่น" นายสมชาย กล่าว
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในเดือนนี้จะเดินทางเยือนมิตรประเทศสมาชิกอาเซียนเพื่อหารือทั้งในประเด็นทวิภาคีและความคืบหน้าในการจัดตั้งประชาคมอาเซียน ได้แก่ กัมพูชา ลาว สหภาพพม่า สิงคโปร์ และอินโดนีเซีย โดยเริ่มตั้งแต่สัปดาห์หน้า
หลังจากนั้นจะไปร่วมประชุมระหว่างประเทศในระดับผู้นำอีกหลายแห่ง ตั้งแต่การประชุมผู้นำประเทศเอเชีย-ยุโรป(อาเซ็ม) ที่กรุงปักกิ่ง ประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนจีน, การประชุมผู้นำกลุ่มประเทศความร่วมมือทางเศรษฐกิจ อิระวดี-เจ้าพระยา-แม่โขง(แอคเม็ก) ที่กรุงฮานอย ประเทศเวียดนาม และการประชุมผู้นำกลุ่มประเทศความร่วมมือทางเศรฐกิจเอเชีย-แปซิฟิค(เอเปค) ที่กรุงลิมา ประเทศเปรู
"ข้าพเจ้าหวังว่าจะใช้โอกาสเหล่านี้ทำงานร่วมกับผู้นำของประเทศอื่นๆ ในภูมิภาค โดยหารือเกี่ยวกับสภาวะความตกต่ำทางเศรษฐกิจของโลกและผลกระทบที่จะเกิดขึ้น และจะร่วมกันเสริมสร้างความร่วมมือกับประชาคมการเงินระหว่างประเทศเพื่อรับมือกับวิกฤตการณ์ที่เกิดขึ้นในขณะนี้" นายสมชาย กล่าว
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลจะส่งเสริมให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางของภูมิภาคที่สำคัญต่างๆ ทั้งในด้านการบริการสุขภาพ การขนส่งสินค้าทางอากาศ กิจการโทรคมนาคม ตลอดจนด้านการศึกษา และการท่องเที่ยว โดยรัฐบาลจะมุ่งเน้นส่งเสริมการลงทุนในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันทางเศรษฐกิจของประเทศและความเจริญรุ่งเรืองของภูมิภาค
--อินโฟเควสท์ โดย ฐานิสร์ ทองนอก/ธนวัฏ/ศศิธร โทร.0-2253-5050 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--