นายธนพิชญ์ มูลพฤกษ์ โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด(อสส.) เปิดเผยว่า ขณะนี้อัยการสูงสุดได้ลงนามในคำร้องที่จะยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยกรณีพรรคพลังประชาชน(พปช.) เข้าข่ายถูกยุบพรรคหรือไม่ ซึ่งเป็นไปตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 237, พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง มาตรา 94, 95 และ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.และการได้มาซื่อ ส.ว.มาตรา 111
สำหรับคำร้องดังกล่าว อสส.ได้ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งยุบพรรค พปช. และขอให้สั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งเป็นเวลา 5 ปีกรรมการบริหารพรรค พปช.ทั้ง 37 คนนับตั้งแต่วันที่มีคำสั่งให้ยุบพรรค หรือเพิกสิทธิเลือกตั้งเฉพาะในส่วนของหัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรคที่มีส่วนรู้เห็นหรือปล่อยปละละเลยให้การเลือกตั้งไม่เป็นไปโดยสุจริตและเที่ยงธรรม ซึ่งเป็นไปตามที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ได้สรุปเรื่องส่งมาให้
โฆษก อสส.กล่าวว่า การยื่นคำร้องดังกล่าวใช้ข้อเท็จจริงที่ศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้งได้วินิจฉัยคดีให้ใบแดงเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งนายยงยุทธ ติยะไพรัช รองหัวหน้าพรรคพลังประชาชนไว้แล้ว และใช้พยานชุดเดียวกันกับที่ยื่นฟ้องต่อศาลฎีกาฯ โดยมีความมั่นใจในพยานหลักฐานคดียุบพรรคทั้งหมด คือ พรรคมัชฌิมาธิปไตย(มฌ.) พรรคชาติไทย(ชท.) และพรรค พปช.
การพิจารณาเรื่องของพรรค พปช.นั้น อสส.สามารถสรุปความเห็นได้ทันตามกำหนดเวลา 30 วัน เพราะศาลฎีกาฯ มีคำวินิจฉัยที่ชัดเจนแล้ว ส่วนกรณีของพรรค มฌ.และ ชท.นั้นมีข้อเท็จจริงที่แตกต่างกันออกไปทำให้ต้องตั้งคณะทำงานร่วมระหว่าง อสส.กับ กกต. และคงไม่สามารถระบุได้ว่าศาลรัฐธรรมนูญจะใช้เวลาในการพิจารณาคดียาวนานเท่าใด
--อินโฟเควสท์ โดย กษมาพร กิตติสัมพันธ์/ธนวัฏ/ศศิธร โทร.0-2253-5050 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--