ปชป.เตรียมร้องศาล รธน.วินิจฉัยกรณีองค์ประชุมวันรัฐบาลแถลงนโยบายไม่ครบ

          พรรคประชาธิปัตย์(ปชป.)เตรียมยื่นเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยกรณีองค์ประชุมของรัฐสภาในวันที่รัฐบาลแถลงนโยบายไม่ครบ ซึ่งส่งผลกระทบต่อการทำหน้าที่ในการบริหารประเทศของนายกรัฐมนตรี
          "พรรค(ปชป.)เตรียมยื่นเรื่ององค์ประชุมไม่ครบต่อศาลรัฐธรรมนูญให้วินิจฉัยการทำหน้าที่ของรัฐบาล" นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ประธานคณะกรรมการประสานงานฝ่ายค้าน(วิปฝ่ายค้าน) กล่าว
          เนื่องจากพบข้อพิรุธเกี่ยวกับองค์ประชุมในวันดังกล่าวว่า มี ส.ส.พรรคพลังประชาชน(พปช.) และพรรรคร่วมรัฐบาล ที่ไม่ได้เข้าร่วมประชุม แต่กลับมีรายชื่อในการโหวตลงคะแนน ได้แก่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รม.สาธารณสุข, นายสฤษฎ์ อึ้งอภินันท์ ส.ส.เชียงราย พรรค พปช. และนายมานิต นพอมรบดี ส.ส.ราชบุรี พรรคมัชฌิมาธิปไตย
          "จากข้อมูลที่ได้ตรวจสอบจากสื่อมวลชนและเจ้าหน้าที่ของรัฐสภาพบว่า ร.ต.อ.เฉลิม ไม่ได้อยู่ในที่ประชุมสภา และถ้าข้อมูลของพรรคเป็นจริงก็จะทำให้มีปัญหาความชอบธรรมขององค์ประชุม และส่งผลต่อการทำหน้าที่ของนายกรัฐมนตรีในการบริหารราชการแผ่นดิน" นายสาทิตย์ กล่าว
          ประธานวิปฝ่ายค้าน กล่าวว่า องค์ประชุมถือเป็นส่วนสำคัญในการประชุมสภา ถ้าขาดแม้คนเดียวก็ถือเป็นโมฆะได้ การเสียบบัตรแทนกันมีความผิดตามประมวลจริยธรรมที่มีโทษสูงสุดสามารถถอดถอนออกจากตำแหน่งได้ การที่มี ส.ส.พปช.อ้างว่าไม่สามารถเลื่อนวันแถลงนโยบายรัฐบาลได้เป็นเหตุผลที่ฟังไม่ขึ้น เพราะตามกฎหมายกำหนดให้รัฐบาลแถลงนโยบายภายใน 15 วันหลังเข้ารับตำแหน่ง ซึ่งจะครบกำหนดวันที่ 9 ต.ค.
          "รัฐบาลสามารถเลื่อนวันออกไปได้อีก 2 วัน โดยประสานงานผ่านทางประธานสภาผู้แทนราษฎรที่เป็นคนพรรคเดียวกัน การออกมากล่าวอ้างดังกล่าวถือเป็นการกลบเกลื่อนความผิดไม่รับผิดชอบต่อผู้เสียชีวิต"นายสาทิตย์ กล่าว
          ด้าน น.ส.ผ่องศรี ธาราภูมิ ส.ส.ลพบุรี พรรค ปชป.กล่าวว่า ได้รับมอบหมายให้ตรวจสอบรายชื่อของบุคคลที่จะเข้าร่วมประชุมสภาในวันดังกล่าวซึ่งพบว่ามีสมาชิกลงชื่อ 258 คนเท่านั้น แต่ขณะที่ประธานสภาให้นับองค์ประชุมปรากฏว่ามีผู้เข้าร่วมประชุม 320 คน ซึ่งจากการตรวจสอบรายชื่อ ส.ส.ที่ลงทะเบียนพบว่า มี ส.ส.อย่างน้อย 3 คนไม่ได้ลงชื่อ แต่ใช้สิทธิโหวต
          "ในสมุดเซ็นชื่อจะมีการขีดเส้นแดงไว้สำหรับบุคคลที่ไม่เข้าประชุม ซึ่งตรวจสอบพบว่ามีการแก้ไขเส้นแดงเพียง 1 คนเท่านั้น จึงตั้งข้อสังเกตว่าหากมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลที่อาจเป็นผลมาจากการตรวจสอบของพรรคก็จะต้องมีการแก้ไขข้อมูลที่มีการบันทึกในสมุดลงทะเบียน พรรคจะเดินหน้าตรวจสอบต่อไป โดยเฉพาะ ส.ว.ว่าจะมีการกระทำในลักษณะเดียวกันหรือไม่" น.ส.ผ่องศรี กล่าว