โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ระบุว่า รู้สึกประหลาดใจกับถ้อยแถลงของนายกรัฐมนตรีกัมพูชาที่ยื่นคำขาดให้ไทยถอนกำลังทหารออกจากการลาดตระเวนใกล้พื้นที่พิพาทบริเวณปราสาทพระวิหารก่อนเที่ยงวันนี้ หากไม่เช่นนั้นพร้อมที่จะทำสงครามเพื่อยึดพื้นที่คืนนั้น เพราะขัดต่อท่าทีกับการแก้ไขปัญหา ในดับทวิภาคี
"รู้สึกประหลาดใจที่นายกรัฐมนตรีกัมพูชายื่นคำขาดต่อประเทศไทยให้ถอนกำลังทหารของไทยออกจากดินแดนที่ติดกับปราสาทพระวิหารและขู่จะใช้กำลังหากไม่ดำเนินการ ซึ่งสิ่งนี้ถือว่าสวนทางกับการอยู่ร่วมกันฉันท์เพื่อนบ้านที่ดี และขัดต่อสนธิสัญญาไมตรีและความร่วมมือในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งระหว่างประเทศสมาชิกอาเซียนด้วยกัน" นายธฤต จรุงวัฒน์ อธิบดีกรมสารนิเทศ ในฐานะโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวกับผู้สื่อข่าว
โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า ถ้อยแถลงของนายกรัฐมนตรีกัมพูชายังขัดกับแนวทางสากลในการแก้ไขปัญหาในระดับทวิภาคีโดยใช้แนวทางสันติ ซึ่งมีการระบุไว้ในกฎบัตรสหประชาชาติด้วย และหากฝ่ายกัมพูชาใช้กำลังในการแก้ปัญหาตามที่ได้มีการยื่นคำขาดไว้ ฝ่ายไทยก็จำเป็นที่จะต้องใช้สิทธิ์ในการป้องกันตนเองตามกฎบัตรสหประชาชาติเพื่อปกป้องอธิปไตย และบูรณภาพแห่งดินแดนของไทย
ที่ผ่านมา ประเทศไทยได้พยายามอย่างต่อเนื่องที่จะแก้ไขปัญหาเขตแดนกับกัมพูชาโดยสันติวิธีผ่านทางกลไกการเจรจาทวิภาคี และก็มีความคืบหน้าเป็นที่น่าพอใจ โดยทหารทั้งสองฝ่ายได้ตกลงที่จะจัดการประชุมสมัยพิเศษของคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาคในวันที่ 21 ต.ค.51 โดยก่อนหน้านั้นในวันที่ 15 ต.ค.จะมีการประชุมฝ่ายเลขานุการของคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค