คณะกรรมการประสานงาน(วิป)รัฐบาล ส่งตัวแทนเข้าแจ้งความที่ สน.ดุสิต ให้ดำเนินคดีกับแกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย รุ่นที่ 2 ที่นำมวลชนปิดล้อมอาคารรัฐสภาเพื่อขัดขวางไม่ให้รัฐบาลแถลงนโยบายต่อรัฐสภาเมื่อวันที่ 7 ต.ค.ที่ผ่านมา และมีการใช้อาวุธปืนยิงเข้าไปในบริเวณรัฐสภา
"การบุกปิดล้อมรัฐสภาเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม เราได้ยินแกนนำพันธมิตรฯประกาศชัดเจนบนเวทีว่าให้มีการฆ่า ส.ส.จับตัวมาเป็นเชลย พร้อมทั้งมีการยิงปืนเข้ามาในสภาด้วย มีการเตรียมนำยางรถยนต์มาวางกั้น มีการราดน้ำมัน ถ้าเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่สลาย แล้วมีการบุกเข้ามาในรัฐสภา อะไรจะเกิดขึ้น อาจเกิดเหตุวุ่นวายและมีการทำร้าย ส.ส.และ ส.ว. ทำให้หลายคนต้องปีนรั้วหนีอย่างทุลักทุเลมาก" นายสุชาติ กล่าว
สำหรับรอยกระสุนปืนนั้น ทาง สน.ดุสิต มีหลักฐานภาพรอยกระสุนปืนหลายแห่งที่มีการใช้อาวุธปืนยิงเข้ามาในบริเวณประตูทางเข้ารัฐสภาชั้น 2 และผนังอาคารรัฐสภา
นายสุชาติ กล่าวว่า จะปล่อยให้ไม่มีการประชุมสภาไม่ได้ พวกเรา ส.ส.ยึดมั่นในระบอบประชาธิปไตย ต้องทำหน้าที่ในสภา การที่นายชัย ชิดชอบ ประธานสภาฯ สั่งงดประชุมสภาในช่วงนี้ เนื่องจากได้ประสานไปยัง ผบ.ทบ.และ ผบ.ตร.ให้มาดูแลความปลอดภัยในสภาแล้วแต่ไม่ได้รับคำตอบ ประธานสภาฯ เห็นว่าไม่มีความปลอดภัย จึงสั่งงดประชุมและจากที่ ส.ส.ลงพื้นที่พบประชาชนต่างให้ยึดมั่นในระบบรัฐสภาพร้อมจะเข้ามาดูแล ส.ส.แทน
"ลองคิดแล้วกันถ้า ส.ส.1 คน มีประชาชน 1,000 คนเข้ามาดูแลแล้วภาพหน้าสภาจะเป็นอย่างไร ขอถามว่าพันธมิตรฯต้องการอะไรกันแน่ ตอนนี้ยึดทำเนียบรัฐบาล บุกปิดล้อมรัฐสภา แต่กฎหมายเอาผิดไม่ได้ และถึงวันนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจทั่วประเทศต่างเสียใจที่ถูกโจมตีว่าทำรุนแรงเกินกว่าเหตุซึ่งต่างคนต่างวินิจฉัย" นายสุชาติ กล่าว