นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม เปิดเผยว่า ขณะนี้ยังไม่ได้มีการหารือกับสมเด็จฮุน เซ็น นายกรัฐมนตรี ของกัมพูชา หลังเกิดเหตุการณ์ปะทะกันของทหารทั้งสองฝ่ายที่บริเวณชายแดนภูมะเขือ จ.ศรีสะเกษ แต่ยืนยันว่ารัฐบาลไทยยังยึดหลักการเจรจาด้วยสันติวิธี และเชื่อว่าสถานการณ์ที่เกิดขึ้นจะไม่บานปลาย นอกจากนี้อีก 1-2 วันจะหาโอกาสเดินทางเยี่ยมเยี่ยมทหารตามแนวชายแดนไทย-กัมพชา
"ขณะนี้ยังไม่ได้ต่อสายหารือกับ นายกฯ ฮุนเซ็น...รัฐบาลยังยึดมั่นอยู่ เราต้องเจรจา เหตุที่ปะทะเราคิดว่าไม่ใช่การปะทะใหญ่โตอะไร อาจจะบาดเจ็บบ้าง แต่ก็เป็นภารกิจ เราก็เห็นใจกำลังพลของเรา ผมคิดว่าในวันสองวันนี้อาจหาโอกาสไปเยี่ยมเยียนให้กำลังใจ"นายสมชาย กล่าว
และการหารือกับผู้นำเหล่าทัพวันนี้ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ไม่ได้มอบนโยบายเรื่องนี้เป็นพิเศษ เพราะเชื่อว่าฝ่ายทหารมีแผนรับมือกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมชื่นชมการทำหน้าที่ของทหารตามแนวชายแดน ที่ทำหน้าที่ได้อย่างสมเกียรติ
นายพีรพล ไตรทศาวิทย์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า ได้รับการยืนยันว่าจากผวจ.ศรีสะเกษ กัมพูชา ไม่มีการกักตัวทหารไทย หรือคนไทย ไว้ หลังมีกระแสข่าวว่ามีทหารไทยถูกทหารกัมพูชากักตัวไว้ประมาณ 10 คน นอกจากนี้ ได้แจ้งให้ประชาชนในพื้นที่ให้รับฟังข่าวสารจาก ผวจ.ศรีสะเกษเท่านั้น เพราะทางจังหวัดมีแผนรับมือและดูแลประชาชนในพื้นที่ไว้พร้อมแล้ว
ด้านนายสมชาย ชุ่มรัตน์ ปลัดกระทรวงแรงงาน กล่าวว่า ขณะนี้ ยังไม่มีแรงงานไทยที่ทำงานในกัมพูชา แจ้งความประสงค์ขอเดินทางกลับไทย หลังเกิดเหตุการณ์ปะทะกันเมื่อวานนี้ แต่กระทรวงได้เตรียมข้อมูลไว้พร้อมแล้ว หากเกิดเหตุการณ์รุนแรงก็พร้อมที่จะอพยพแรงงานไทยกลับประเทศได้ทันที
ทั้งนี้ เชื่อว่าความตึงเครยดที่เกิดขึ้นตามแนวชายแดนยังไม่ถึงขึ้นวิกฤติ แต่เป็นเรื่องระดับรัฐบาลกับรัฐบาลที่ต้องดำเนินการ
ด้านนายศานิตย์ นาคสุขศรี ผวจ.สระแก้ว กล่าวว่า สถานการณ์ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ในพื้นที่ จ.สระแก้ว ยังเป็นปกติ โดยความสัมพันธ์ของ2 ประเทศในพื้นที่สระแก้ว ยังดีอยู่ แต่ยอมรับว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกระทบต่อการค้าในตลาดโรงเกลือที่มีจำนวนพ่อค้าแม่ค้าลดลง ทางจังหวัดได้แจ้งเตือนให้ประชาชน อย่าข้ามฝั่งไปกัมพูชาในช่วงนี้ และอย่าตื่นตระหนกกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
อย่างไรก็ตาม ในเวลา 14.00 น.วันนี้ แม่ทัพภาคที่ 1ของไทย และภูมิภาคทหารที่ 5 ของกัมพูชา จะหารือร่วมกัน ที่ด่านคลองลึก อ.อรัญประเทศ