นายบารัค โอบามา ตัวแทนชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐจากพรรคเดโมเครต สามารถระดมทุนหาเสียงได้มากที่สุดถึง 605 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ทุบสถิติการระดมทุนหาเสียงที่เคยมีมาในประวัติศาสตร์การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ
สำหรับเงินบริจาคจำนวนเล็กๆน้อยๆแต่รวมกันได้หลายล้านดอลลาร์นั้นมาจากผู้บริจาครายย่อย โดยผ่านช่องทางระดมทุนทางอินเทอร์เน็ต ในขณะที่เงินบริจาคก้อนใหญ่ วุฒิสมาชิกรัฐอิลลินอยส์พึ่งพาทีมระดมทุนหาเสียงที่เขาเลือกสรรมาเอง
โอบามาใช้รูปแบบการระดมทุนที่ประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู บุชได้ริเริ่มขึ้น ด้วยการขอความช่วยเหลือให้บุคคล 561 ท่านเป็นผู้รวบรวมเงินบริจาคจากบรรดาญาติสนิทมิตรสหายและเพื่อนร่วมงาน โดยเขาตำหนิและปฏิเสธที่จะรับเงินจากผู้บริจาครายใหญ่และกลุ่มล็อบบี้ยิสต์ หรือผู้ที่เป็นคนกลางวิ่งเต้นหาผลประโยชน์
อย่างไรก็ตาม ในขณะที่เขาได้วิพากษ์วิจารณ์ถึงการทำงานของทีมระดมทุนหาเสียงที่มีความสัมพันธ์เกี่ยวข้องกับเจ้าหน้าที่ในแวดวงการเงินสหรัฐอย่างสาดเสียเทเสีย แต่ว่าแท้จริงแล้วกลุ่มคนเหล่านี้กลับเป็นผู้หาเงินทุนก้อนใหญ่มาให้กับเขา โดยรายงานระบุว่าทีมระดมทุนหาเสียงของนายโอบามาซึ่งหาเงินได้มากกว่า 76 ล้านดอลลาร์สหรัฐนั้น ประกอบไปด้วยเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหารและเจ้าหน้าที่ของสำนักงานกฎหมายและสถาบันการเงินที่เป็นต้นตอของวิกฤตการเงินของสหรัฐ อาทิ บริษัทเลห์แมน บราเธอร์ส โฮลดิ้งส์ อิงค์ และอเมริกัน อินเตอร์เนชั่นเนล กรุ๊ป อิงค์ ไปจนถึงแฟนนี เม
ทั้งนี้ แม้ว่าเจ้าหน้าที่ในแวดวงการเงินจะเป็นกลุ่มผู้บริจาคเงินให้กับโอบามามากที่สุดเป็นอันดับสอง แต่โอบามาก็ยังกล้าออกมาแสดงความคิดเห็นว่า ความละโมบและการขาดความรับผิดชอบของบุคคลเหล่านี้ทำให้เกิดเรื่องวุ่นวายขึ้นในวอลล์สตรีทจนทำให้วิกฤตสินเชื่อระบาดไปทั่วโลก
ในส่วนของแหล่งเงินทุนก้อนใหญ่สุดนั้น มาจากเงินในกระเป๋าของครอบครัวพนักงานจากบริษัทโกลด์แมน แซคส์ กรุ๊ป อิงค์ โดยสำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ในช่วงสิ้นเดือนส.ค.ที่ผ่านมา กลุ่มพนักงานเหล่านี้มียอดเงินบริจาคที่ 739,521 ดอลลาร์สหรัฐ