ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง สั่งจำคุก พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีดนายกรัฐมนตรีเป็นเวลา 2 ปี ในคดีทุจริตซื้อที่ดินย่านรัชดาจากกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน ฐานฝ่าฝืนมาตรา 100 ในพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามทุจริตแห่งชาติ เนื่องจากนายกรัฐมนตรีเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐที่มีอำนาจกว้างขวางในการกำกับดูแลหน่วยงานของรัฐ ซึ่งรวมไปถึงกองทุนฟื้นฟูฯ การเข้าไปมีส่วนในการซื้อที่ดินดังกล่าวถือเป็นการผิดธรรมาภิบาล
ทั้งนี้ ศาลสั่งให้ออกหมายจับ พ.ต.ท.ทักษิณ มารับโทษตามที่กำหนดไว้
ส่วนคุณหญิงพจมาน ชินวัตร ซึ่งเป็นคู่สมรสที่ตกเป็นจำเลยที่ 2 ศาลฎีกาฯ เห็นว่าไม่ถือว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ จึงไม่มีความผิดตามมาตรา 100 ตามกฎหมาย ป.ป.ช. ดังนั้น จึงให้ยกฟ้องตามข้อกล่าวหา และให้เพิกถอนหมายจับในคดีนี้
"หากพิจารณาในแง่ธรรมาภิบาลแล้ว นายกรัฐมนตรีและครอบครัวไม่ควรเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการประมูลซื้อที่ดินดังกล่าว เนื่องจากเป็นผู้กำกับดูแล"ผู้พิพากษา กล่าว
ศาลฎีกาฯ ระบุว่า ขณะเกิดเหตุ พ.ต.ท.ทักษิณ ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ได้รับมอบหมายไว้วางใจให้บริหารราชการแผ่นดินเพื่อประโยชน์สูงสุดต่อราชการและประชาชน แต่กลับฝ่าฝืนบทบัญญัติของกฎหมาย ทั้งที่เป็นหัวหน้ารัฐบาลก็ควรกระทำตัวเป็นแบบอย่างที่ดี ที่ต้องมีความซื่อสัตย์สุจริต ประพฤติตนในสิ่งที่ดีงามตามจริยธรรมของนักการเมืองให้เหมาะสมกับที่ได้รับไว้วางใจในตำแหน่งอันสำคัญยิ่ง จึงไม่สมควรรอการลงโทษ
ทั้งนี้ ความผิดการฝ่าฝืนมาตรา 100 ในกฎหมาย ป.ป.ช.มีโทษที่กำหนดไว้ในมาตรา 122 วรรค 1 ว่าเจ้าหน้าที่ของรัฐผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา 100 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ แต่ไม่ได้ระบุให้ลงโทษไปถึงคู่สมรสหรือบุคคลอื่น
สำหรับข้อกล่าวหาตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 152 ฐานเป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่จัดการหรือดูแลกิจการใด เข้ามีส่วนได้เสียเพื่อประโยชน์สำหรับตนเองหรือผู้อื่นเนื่องด้วยกิจการนั้น และ ความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 ฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่มิชอบนั้น
องค์คณะผู้พิพากษา มีมติ 8 ต่อ 1 ว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่มีความผิด ตามข้อกล่าวหาเกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่มิชอบ รวมทั้งข้อกล่าวหาที่ระบุว่าได้เข้าไปมีส่วนในการเปลี่ยนแปลงข้อกำหนดต่าง ๆ เพื่อเอื้อต่อการประมูลที่ดิน และการลงลายมือชื่อในฐานะคู่สมรสในการทำนิติกรรมก็ไม่ใช่สิ่งที่จำเป็นต้องกระทำ ดังนั้นในข้อกล่าวหานี้ คุณหญิงพจมานจึงพ้นผิดด้วย
นอกจากนั้น ศาลฯ ยังมีคำสั่งไม่ให้ริบที่ดินรัชดา และ เงินค่าที่ดินจำนวน 772 ล้านบาท เนื่องจากไม่ถือว่าเป็นทรัพย์สินที่จำเลยทั้งสองใช้ในการกระทำความผิด และไม่ได้เป็นทรัพย์สินที่ได้มาจากการกระทำความผิดของจำเลยที่ 2 ด้วย