เอแบคโพลล์ เผยคนไทยอยากให้บุคคลสำคัญในแวดวงการเมืองทุกคนรักกัน โดยเฉพาะคู่ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กับนายสนธิ ลิ้มทองกุล หนึ่งในแกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่คนไทยอยากให้รักกันมากที่สุด
"คู่แรกที่คนไทยอยากให้รักกันมากที่สุดหรือร้อยละ 38.4 คือ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร กับนายสนธิ ลิ้มทองกุล...ประชาชนส่วนใหญ่หรือร้อยละ 93.2 อยากให้ทุกกลุ่มทุกคณะบุคคลนัยสำคัญทั้งหมดรักและสามัคคีกัน" นายนพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยความสุขชุมชน มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ ระบุในเอกสารเผยแพร่
ผลสำรวจครั้งนี้พบว่า 10 อันดับคู่บุคคลนัยสำคัญที่คนไทยอยากให้รักกัน คู่แรกที่คนไทยอยากให้รักกันมากที่สุด พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร กับนายสนธิ ลิ้มทองกุล, อันดับที่สองมี 2 คู่คือ คู่ของนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ กับ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง และคู่ของนายสมชาย กับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ
ขณะที่อันดับที่สี่ คู่ของ พ.ต.ท.ทักษิณ กับนายอภิสิทธิ์ อันดับที่ห้าคู่ของนายสมชาย กับนายสนธิ คู่อันดับหกคู่ของ พ.ต.ท.ทักษิณ กับ พล.ต.จำลอง คู่อันดับที่เจ็ด คู่ของนายสมชาย กับ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา คู่อันดับที่แปด คู่ของ พล.ต.จำลอง กับนายสนธิ คู่อันดับที่เก้า พล.ต.จำลอง กับนายอภิสิทธิ์ และคู่อันดับสุดท้าย ระบุคู่ของ พ.ต.ท.ทักษิณ กับนายสมชาย
คนไทยในภาคเหนือร้อยละ 41.6 และภาคตะวันออกเฉียงเหนือร้อยละ 40.2 อยากให้ พ.ต.ท.ทักษิณ กับนายสนธิ รักกันมากเป็นอันดับที่หนึ่ง เช่นเดียวกับคนในกรุงเทพฯ ที่มีอยู่ร้อยละ 42.1 และในทิศทางที่คล้ายๆ กันคืออยากให้นายสมชาย กับนายอภิสิทธิ์ รักกัน ยิ่งไปกว่านั้นประชาชนในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือส่วนใหญ่อยากให้ทุกคู่บุคคลนัยสำคัญทั้งหมดรักและสามัคคีกัน
ส่วนคณะบุคคลนัยสำคัญที่อยากให้รักและสามัคคีกัน พบว่า อันดับแรกหรือร้อยละ 45.8 ระบุคู่ของ กลุ่ม นปก.-นปช. กับกลุ่มพันธมิตรฯ รองลงมาคืออันดับที่สอง ส.ส.ฝ่ายค้าน กับ ส.ส.ฝ่ายรัฐบาล อันดับที่สาม ส.ส.ฝ่ายรัฐบาล กับกลุ่มพันธมิตรฯ อันดับที่สี่คู่ของตำรวจ กับกลุ่มพันธมิตรฯ อันดับที่ห้า ตำรวจกับทหารในกองทัพ
อันดับที่หก ทหารในกองทัพกับกลุ่มพันธมิตรฯ อันดับที่เจ็ด ทหารในกองทัพ กับส.ส.ฝ่ายรัฐบาล อันดับที่แปด ส.ส.ฝ่ายค้านกับทหารในกองทัพ อันดับที่เก้า นักวิชาการกับทหารในกองทัพ และคู่สุดท้าย กลุ่มสมาชิกวุฒิสภา(ส.ว.) กับ ส.ส.ฝ่ายรัฐบาล
สำหรับทางออกของปัญหาการเมืองในขณะนี้ ประชาชนส่วนใหญ่ถึงร้อยละ 92.4 ระบุขอให้ยึดมั่นในหลักกระบวนการยุติธรรม ตามตัวบทกฎหมาย รองลงมาคือร้อยละ 82.3 ระบุให้มีการเลือกตั้งนายกรัฐมนตรีโดยตรงจากประชาชน, ร้อยละ 80.5 ให้ทุกฝ่ายยอมรับคำตัดสินของศาลกรณีคดีที่ดินรัชดา, ร้อยละ 59.6 ระบุเลือกตั้งใหม่, ร้อยละ 53.8 ระบุพรรคพลังประชาชนจับมือกับพรรคประชาธิปัตย์ จัดตั้งรัฐบาลแห่งชาติ, ร้อยละ 52.5 ระบุนายกรัฐมนตรีควรลาออกเพื่อแสดงความรับผิดชอบกรณีเกิดเหตุปะทะ 7 ตุลาคม
แต่ประชาชนส่วนใหญ่ร้อยละ 58.4 ระบุการนิรโทษกรรมให้อดีตแกนนำพรรคไทยรักไทย 111 คน ไม่ใช่ทางออก และร้อยละ 73.4 ระบุการยึดอำนาจหรือปฏิวัติไม่ใช่ทางออกของปัญหาการเมืองในเวลานี้
อนึ่ง เอแบคโพลล์ ทำวิจัยเรื่อง คู่ไหน-กลุ่มไหนที่คนไทยอยากให้รักกันกับทางออกของวิกฤตการเมืองไทย:กรณีศึกษาตัวอย่างประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งใน 19 จังหวัดทั่วประเทศ จำนวน 4,988 ตัวอย่าง ในช่วงระหว่างวันที่ 23-28 ต.ค.ที่ผ่านมา