ผลการสำรวจความคิดเห็นซึ่งจัดทำโดยเรียล เคลียร์ โพลิติคส์ ชี้ว่า บารัค โอบามา ตัวแทนจากพรรคเดโมแครตมีคะแนนนิยมเหนือคู่แข่งอย่างนายจอห์น แมคเคน ตัวแทนจากพรรครีพับลิกันอยู่ 7% ก่อนที่การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐจะเปิดฉากขึ้นในวันที่ 4 พฤศจิกายน
ในช่วงต้นเดือนต.ค.ที่ผ่านมานั้น โอบามามีคะแนนนำแมคเคนอยู่ในช่วง 5-8 จุด ขณะที่โพลล์ล่าสุดของวอลล์ สตรีท เจอร์นอล/เอ็นบีซี นิวส์ชี้โอบามามีคะแนนนำแมคเคนอยู่ 51% ต่อ 42% ส่วนแกลลัพ โพลล์ชี้โอบามามีคะแนนสนับสนุนนำอยู่ 53% ส่วนแมคเคนได้คะแนนสนับสนุนตามมาที่ 42% สำหรับโพลล์ของรัสมุสเซน รีพอร์ตส์ชี้ว่า โอบามามีคะแนนนำอยู่ 52% แมคเคนตามหลังมาที่ 46%
บลูมเบิร์กรายงานว่า ผลการสำรวจของซีบีเอส นิวส์ชี้ แมคเคนได้รับคะแนนสนับสนุนมากขึ้น 4% ในกลุ่มผู้มีสิทธิลงคะแนนเสียง ส่วนโอบามาได้ไป 9% ซึ่งการสำรวจความคิดเห็นดังกล่าวจัดทำขึ้นเมื่อวันที่ 31 ต.ค. - 2 พ.ย.
ทั้งนี้ โอบามาทีคะแนนนำในรัฐสำคัญอย่างโอไฮโอ เพนซิลวาเนีย เวอร์จิเนีย นิวเม็กซิโก โคโลราโด และเนวาด้า ขณะที่รัฐฟลอริด้า นอร์ท แคโรไลน่า และอินเดียน่านั้น ทั้ง 2 ฝ่ายมีคะแนนสูสีกัน
ปีเตอร์ บราวน์ รองผู้อำนวยการของสถาบันจัดทำโพลล์ของมหาวิทยาลัยควินนิเพียค กล่าวว่า ผู้มีสิทธิลงคะแนนเสียงกล่าวว่า เศรษฐกิจถือเป็นประเด็นหลักที่มีผลต่อการลงคะแนนเสียง ผู้มีสิทธิลงคะแนนเสียงมองว่า โอบามาเป็นทางเลือกที่ดีกว่าในการแก้ปัญหาและรับมือกับปัญหาทางการเงินของประเทศ