แกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เชื่อว่าฝ่ายการเมืองวิ่งเต้นให้ศาลรัฐธรรมนูญเลื่อนพิจารณาคดียุบ 3 พรรคการเมืองร่วมรัฐบาลออกไปอีก 6 เดือน เพื่อใช้เวลาที่เหลืออยู่เร่งเบิกจ่ายงบลงทุนโครงการเมกะโปรเจ็คต์หลายแสนล้านบาท
"ทราบมาว่าขณะนี้ฝ่ายการเมืองพยายามวิ่งเต้นให้ศาลรัฐธรรมนูญเลื่อนการเปิดศาลวินิจฉัยคดียุบพรรคการเมืองทั้ง 3 พรรคไปอีก 6 เดือน แต่ไม่ทราบว่า ศาลจะมีท่าทีเช่นไร เป็นความพยายามที่อยู่ในอำนาจให้นานที่สุด เพื่อหากินทุจริตคอรัปชั่นกับโครงการเมกะโปรเจ็คต์ต่างๆ" นายพิภพ ธงไชย แกนนำพันธมิตรฯ กล่าว
ล่าสุด ศาลรัฐธรรมนูญอนุญาตให้ทั้ง 3 พรรค คือ พรรคมัชฌิมาธิปไตย(มฌ.) พรรคชาติไทย(ชท.) และพรรคพชังประชาชน(พปช.) ขยายเวลาการยื่นคำชี้แจงออกไปจากเดิมอีก 15 วัน โดยจะครบกำหนดวันที่ 19 พ.ย.นี้
แกนนำพันธมิตรฯ กล่าวว่า ขณะนี้เครือข่ายของระบอบทักษิณกำลังเคลื่อนไหวและพยายามทุกวิถีทางเพื่อให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กลับมามีอำนาจอีกครั้ง ไม่ว่าจะเป็นการเตรียมถวายฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษ การแก้รัฐธรรมนูญ และการใช้มวลชนข่มขู่สถาบัน
ส่วนกรณีที่มี ส.ส.พรรคพลังประชาชน ทำหนังสือถึง พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ เพื่อขอให้เป็นคนกลางไกล่เกลี่ยความขัดแย้งนั้น นายพิภพ เชื่อว่าสามารถที่จะประสานได้ แต่คาดการณ์ไม่ได้ว่า พล.อ.เปรม จะตอบรับมาดำเนินการหรือไม่
แต่ก่อนจะถึงจุดนั้นขอเรียกร้องให้พรรค พปช.แก้ปัญหาที่ต้นเหตุด้วยการหยุดสร้างเงื่อนไขเรื่องความขัดแย้งด้วยการอุ้ม พ.ต.ท.ทักษิณให้หลุดพ้นจากกระบวนการยุติธรรมหรือแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยเฉพาะนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ที่ไร้จริยธรรมควรจะลาออกจากตำแหน่งก่อน เพื่อยุติความแตกแยกในสังคม
แกนนำพันธมิตรฯ ยังปฏิเสธว่าการเรียกร้องให้ทหารออกมาปฏิวัติ เพราะการทำเช่นนั้นอยู่นอกกรอบกติกาประชาธิปไตย แต่เรียกร้องให้ทหารออกมาทำหน้าที่ยุติปัญหาตามที่รัฐธรรมนูญกำหนด เพราะเห็นว่าวิกฤตการเมืองในขณะนี้ถูก พ.ต.ท.ทักษิณ ยกระดับการเผชิญหน้าตั้งแต่ศาลถึงสถาบันสูงสุดจนทำให้สังคมแตกแยก
ส่วนการสานเสวนา 4 ฝ่ายนั้น นายพิภพ กล่าวว่า กลุ่มพันธมิตรฯ ยึดจุดยืนเดิมว่าจะไม่เข้าร่วมแน่นอน ที่สำคัญกลุ่มพันธมิตรฯ ไม่ยอมรับบทบาทของ นพ.วันชัย วัฒนศัพท์ และนายโคทม อารียา ที่เป็นผู้ดำเนินการ
"สองคนนี้ไม่พูดความจริง พยายามลอยตัวอยู่เหนือความขัดแย้ง พยายามหลีกเลี่ยงปัญหาและให้ทุกฝ่ายยุติความรุนแรง แต่ไม่ได้แยกแยะก่อนว่าฝ่ายใดเป็นผู้เริ่มใช้ความรุนแรง ซึ่งใช้ไม่ได้ การสานเสวนาควรทำเรื่องความเห็นต่างทางการเมือง แต่ถ้าเป็นเรื่องผิดกฎหมายควรให้กระบวนการยุติธรรมเป็นผู้จัดการ" นายพิภพ กล่าว
แกนนำกลุ่มพันธมิตรฯ กล่าวว่า พันธมิตรฯ เปิดรับการเจรจาเสมอ แต่ต้องเป็นการเจรจากับรัฐบาลเท่านั้น โดยขอให้ส่งคนที่มีอำนาจมาเจรจา แม้ว่าพันธมิตรฯ จะมีธงในการขับไล่รัฐบาลและต่อต้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญ แต่ก็มั่นใจว่ามีช่องทางที่จะเจรจาได้ เพราะไม่มีความขัดแย้งที่ไหนในโลกที่ไม่สามารถเจรจาได้
อย่างไรก็ตาม กลุ่มพันธมิตรฯ ยืนยันว่า จะคัดค้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 291 ที่รัฐบาลกำลังรีบแก้ไขอย่างแน่นอน เพราะเชื่อว่าจะมีการแก้ไขโดยพ่วงมาตรา 190, 237 และ 309 ไปด้วย