รักษาการโฆษกพรรคพลังประชาชน(พปช.) สนับสนุนแนวคิดการตรากฎหมายยกเลิกประกาศคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข(คปค.) แต่เป็นการไม่เหมาะสมหากผู้ที่มีส่วนได้เสียจะออกมาเคลื่อนไหว เพราะแม้จะมีเจตนาดีแต่หากกลายเป็นประเด็นทางการเมืองแล้วจะถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าเป็นการทำเพื่อตัวเอง และควรดูจังหวะเวลาที่เหมาะสม
"ตามหลักการกฎหมายที่ออกโดยคณะปฏิวัติไม่เป็นไปตามหลักนิติธรรมของระบอบประชาธิปไตย สมควรได้รับการยกเลิกอยู่แล้ว แต่ผู้ที่มีส่วนได้ส่วนเสียกับเรื่องนี้โดยตรงไม่ควรออกมาเคลื่อนไหว เพราะจะทำให้ความสำเร็จลดน้อยลง เนื่องจากถูกมองว่าเคลื่อนไหวเพื่อตัวเอง" ร.ท.กุเทพ ใสกระจ่าง รักษาการโฆษกพรรค พปช.กล่าว
วานนี้(6 พ.ย.) นพ.ทศพร เสรีรักษ์ อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย(ทรท.)ออกมาระบุว่าเตรียมเสนอร่าง พ.ร.บ.เสนอแก้ไขประกาศ คปค.ฉบับที่ 27 เข้าสู่สภาผู้แทนราษฎร โดยรวบรวมรายชื่อของประชาชนสนับสนุน 1 หมื่นราย สาระสำคัญของร่างกฎหมายยกำหนดให้ยกเลิกประกาศ คปค.ฉบับที่ 27 และระบุในมาตรา 4 "บุคคลที่ถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งโดยอาศัยอำนาจตามประกาศ คปค.ฉบับที่ 27 นี้ ให้ถือว่าผู้นั้นไม่เคยถูกถอนสิทธิเลือกตั้ง"
ส่วนที่มีการเสนอให้ออกกฎหมายยกเลิกประกาศ คปค.ทุกฉบับนั้น รักษาการโฆษกพรรค พปช. กล่าวว่า ต้องไปดูว่าประกาศ คปค.ฉบับไหนละเมิดสิทธิประชาชนโดยตรงและเลือกปฏิบัติ เช่น ประกาศ คปค.ฉบับที่ 27 ที่มีเจตนามุ่งทำลายล้างชัดเจนน่าจะได้รับการยกเลิก แต่บางฉบับที่เขียนไว้คุ้มครองสิทธิประชาชนก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งต้องดูเป็นฉบับไป
สำหรับการออกกฎหมายนิรโทษกรรมก็คงต้องรอจังหวะเวลาที่เหมาะสมเช่นกัน โดยให้ผู้คนมีความคิดเห็นไปในทางเดียวกันถึงจะทำได้ แต่หากยังมีอีกฝ่ายคัดค้านก็ยากที่จะทำสำเร็จ และหากคนที่จะได้รับประโยชน์คือ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ก็จะถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าไม่สมควร รวมทั้งหากมีการเคลื่อนไหวแล้วคนมองว่าเป็นประเด็นทางการเมืองก็ยากที่จะสำเร็จ
ขณะที่ นพ.ทศพร กล่าวว่า การรวบรวมรายชื่อประชาชน 1 หมื่นรายเพื่อเสนอแก้ประกาศ คปค.ไม่ใช่เรื่องยากจะทำให้เร็วก็ได้แต่ยังไม่อยากรีบร้อนดำเนินการ คิดว่าในการเปิดสมัยประชุมหน้าน่าจะยื่นเรื่องได้ทันที นอกจากนี้ในการสัมมนาสมาชิกบ้านเลขที่ 111 ในวันที่ 19 พ.ย.นี้ ที่มูลนิธิไทยรักไทย น่าจะมีการแสดงความคิดเห็นที่หลากหลายในเรื่องดังกล่าว