ที่ประชุมวุฒิสภาเปิดเวทีอภิปรายเดือดกรณี ส.ส.ยื่นถอดถอน น.ส.รสนา โตสิตระกูล ส.ว.กทม.กลุ่ม ส.ว.เรียงหน้าปกป้องและเรียกร้องความเป็นธรรมแทน ก่อนปิดประชุมไปโดยไร้ข้อสรุป
นายนิคม ไวยรัชพานิช รองประธานวุฒิสภาคนที่ 1 ทำหน้าที่เป็นประธานการประชุมวุฒิสภาในวันนี้ซึ่งมีเรื่องด่วนที่เข้าสู่การพิจารณา คือ กรณีที่ ส.ส.145 คน เข้าชื่อถอดถอน น.ส.รสนา ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 270 เนื่องจากมีพฤติการณ์ส่อไปในทางทุจริตต่อหน้าที่ และจงใจใช้อำนาจหน้าที่ขัดต่อบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญหรือฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง โดยขัดขวางการทำงานของสภาฯ และพาผู้ติดตามเข้ามาในห้องประชุมสภาในการประชุมรัฐสภาวันที่ 7 ต.ค.51
ด้าน น.ส.รสนา ยืนยันว่า ไม่ได้นำคนนอกเข้ามาในห้องประชุมสภาฯ ส่วนผู้ติดตามจะเข้ามาในห้องประชุมเมื่อไหร่นั้นตนไม่ทราบ แต่หากผู้ติดตามเข้ามาและมีความผิดก็ต้องดำเนินการสอบสวนแยกออกจากกรณีของตน โดยให้ตรวจสอบเป็นรายบุคคล ส่วนกรณีที่กล่าวหาว่าตนร่วมมือกับกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยโดยมีการแบ่งแยกหน้าที่กันทำนั้น ขอปฏิเสธว่าไม่ได้เป็นพวกเดียวกับพันธมิตรฯ และไม่ได้ออกจากรัฐสภาก่อนสมาชิกคนอื่น
ทั้งนี้มี ส.ว.ทั้งระบบเลือกตั้ง และระบบสรรหา เช่น น.ส.สุมล สุตะวิริยะวัฒน์ ส.ว.เพชรบุรี, นาย ไพบูลย์ ซำศิริพงษ์ ส.ว.ปทุมธานี, พญ.พรพันธุ์ บุญยรัตพันธุ์, นายมณเฑียร บุญตัน, พล.อ. เลิศรัตน์ รัตนวานิช, นายประสาร มฤคพิทักษ์ ส.ว.สรรหา ได้อภิปรายเรียกร้องความเป็นธรรมให้ น.ส. รสนา ประมาณ 1 ชั่วโมง
โดยระบุว่าวันดังกล่าว น.ส.รสนา ไม่ได้พาผู้ติดตามเข้ามาและไม่เคยพาผู้ติดตามเข้ามาในการประชุมวุฒิสภา ตามที่ ส.ส.หญิง พรรคพลังประชาชน ได้ยื่นถอดถอน น.ส.รสนา แต่เมื่อผู้ติดตามซึ่งเป็นสามีของ น.ส.รสนา เห็นภรรยากำลังโดน ส.ส.4-5 คน เดินเข้ามารุมล้อมชี้หน้า ด่าทอ ก็เป็นวิสัยของสามีที่จะเข้ามาปกป้อง และเมื่อเข้ามาก็มานั่งดูสถานการณ์ไมได้ลุกขึ้นมาทำอะไร จึงไม่ร้ายแรงถึงขั้นจะต้องยื่นถอดถอน น.ส.รสนา
ดังนั้นการที่ ส.ส.หญิงของพรรคพลังประชาชน ยื่นเรื่องถอดถอน น.ส.รสนา จึงถือเป็นการบั่นทอนกำลังใจการทำงานของ ส.ว.จึงขอให้ ส.ว.สามัคคีและรวมพลังปกป้องศักดิ์ศรีของวุฒิสภาด้วย เพราะเพื่อน ส.ว.คนหนึ่งไม่ได้ทำอะไรผิดมากมาย จึงไม่เป็นเหตุสมควรให้ถูกถอดถอน และไม่เข้าเกณฑ์รัฐธรรมนูญมาตรา 270 ขณะที่ ส.ส.คนหนึ่งมีพฤติกรรมไม่สมควรในสภาถึง 2 ครั้ง แต่กลับไม่มีการทำอะไร
นาย ตวง อันทะไชย ส.ว.สรรหา กล่าวว่า เมื่อมีเรื่องเข้ามาก็ต้องสอบสวนให้ได้ข้อยุติก่อนแจ้งที่ประชุม แต่ที่ประธานทำเหมือนเป็นการรับลูกจากฝ่ายการเมือง เพราะ 2-3 วันที่ผ่านมามีการยื่นถอดถอนส.ว.หลายกรณี ซึ่งหากเป็นการเล่นเหลี่ยมทางการเมือง ประธานไม่ควรนำมาในที่ประชุมจนกว่าจะตั้งกรรมการสอบสวนจนได้ข้อยุติกอน นอกจากนี้ วาระนี้เป็นวาระเรื่องด่วนและเข้ามาตอนนายประสพสุข บุญเดช ประธานวุฒิสภาไม่อยู่บนบัลลังก์ประธาน สมาชิกจึงสงสัย ดังนั้นจึงขอเสนอญัตติให้เลื่อนวาระนี้ออกไปก่อน