เอแบคโพลล์เผยคะแนนนิยมรัฐบาลยิ่งลดต่ำลงไปอีกหลัง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์โทรศัพท์เข้ารายการความจริงวันนี้สัญจรต้านรัฐประหารที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน เมื่อวันที่ 1 พ.ย.ที่ผ่านมา และในทางตรงกันข้ามกลับส่งผลดีต่อพรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) เพราะหากมีการเลือกตั้งใหม่ประชาชนจะหันไปเลือกพรรค ปชป.มากกว่าพรรคพลังประชาชน(พปช.)
"ค่าเฉลี่ยคะแนนความสง่างามและความชอบธรรมของรัฐบาลชุดปัจจุบันลดลง เมื่อคะแนนเต็ม 10 คะแนน จาก 4.31 ในผลสำรวจวันที่ 18 ตุลาคมที่ผ่านมาลดลงเหลือ 3.97 ในการสำรวจล่าสุด" นายนพดล กรรณิการ์ ผูอำนวยการสำนักวิจัยเอแบคโพลล์ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ ระบุในเอกสารเผยแพร่
แม้คนที่นิยมศรัทธาต่ออดีตนายกรัฐมนตรีจะเพิ่มขึ้นแต่เป็นเพียง 5-10% เท่านั้น ขณะที่กลุ่มตัวอย่างกว่า 30% กลับไม่นิยมศรัทธาในตัว พ.ต.ท.ทักษิณ เลย และกลุ่มตัวอย่าง 66.7% คิดว่าการโฟนอินดังกล่าวทำให้สถานการณ์การเมืองแย่ลง
นอกจากนี้ยังส่งผลกระทบต่อความนิยมฐานสนับสนุนของประชาชนต่อนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ในตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนปัจจุบันลดลง จากที่เคยได้รับการสนับสนุนจากประชาชนในช่วงปลายเดือน ต.ค.51 อยู่ที่ 56.3% หรืออยู่ในระดับ B- มาอยู่ที่ 49.0 หรืออยู่ในระดับ C
กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่ 62.9% ยังเห็นว่าแนวคิดที่จะแก้ไขรัฐธรรมนูญด้วยการตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญชุดใหม่ในช่วงเวลาขณะนี้ยังไม่เหมาะสม และส่วนใหญ่ 65.2% คิดว่าความพยายามจะแก้ไขรัฐธรรมนูญจะกลายเป็นเรื่องที่นำไปสู่ความขัดแย้งรุนแรงบานปลายอีกด้วย
ส่วนความเครียดของประชาชนต่อเรื่องการเมืองยังคงสูงเหมือนเดิมที่ 5.88 จาก 5.89 ในการสำรวจครั้งก่อน และมีแนวโน้มสนับสนุนการตั้งรัฐบาลแห่งชาติและแนวคิดการเมืองใหม่การเมืองภาคประชาชนเพิ่มขึ้นจาก 5.08 มาอยู่ที่ 6.02 และ 5.42 มาอยู่ที่ 5.58 ตามลำดับ
และหากวันนี้มีการเลือกตั้งใหม่เกิดขึ้น ประชาชน 40.6% ระบุจะเลือก ปชป. รองลงมาที่ใกล้เคียงกัน คือ 39.0% จะเลือก พปช. หรือพรรคที่มีอดีต ส.ส.ของพรรคไทยรักไทย และ 20.4% ระบุจะเลือกพรรคการเมืองอื่นๆ