พล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี อดีตรองผู้อำนวยการ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน(กอ.รมน.) ระบุยังไม่ได้รับทาบทามนั่งเก้าอี้รองนายกรัฐมนตรีด้านความมั่นคงแทน พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ตามที่มีข่าว แต่น่าจะเป็นการคาดการณ์ของสื่อเนื่องจากตนเองได้ไปพบปะกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ประเทศจีน ประกอบกับตำแหน่งดังกล่าวยังว่างอยู่
"ผมก็ต้องดูว่าเมื่อผมเข้าไปแล้วแก้ปัญหานี้(การชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย)ได้ไหม ถ้าแก้ปัญหาได้ผมก็พร้อม...ต้องดูว่าอำนาจที่ทางนายกรัฐมนตรีจะมอบให้ผมมีอะไรบ้าง ไม่ใช่เข้าไปแบบพลเอกชวลิตให้ไปดูน้ำท่วม ผมก็ไม่รับถ้าเป็นแบบนั้น" พล.อ.พัลลภ กล่าวทางรายการวิทยุเช้านี้
อดีตรองผู้อำนวยการ กอ.รมน.ปฏิเสธที่จะเปิดเผยถึงรายละเอียดของแผนการแก้ปัญหาการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯ เหมือนที่ผ่านมา โดยเป็นแนวทางที่ต้องใช้ทั้งการเมืองและการทหารผสมผสานกัน แต่ต้องไม่ทำให้เกิดการบาดเจ็บล้มตาย และยืนยันขณะนี้ยังไม่มีการทาบทามอย่างเป็นทางการ ไม่ว่าจะเป็นผู้ใหญ่ในรัฐบาลหรืออดีตนายกรัฐมนตรี
"ท่าน(ทักษิณ)พูดว่าพี่(พัลลภ)แก้ได้ เพราะพี่มีประสบการณ์สูง ท่านว่าอย่างนั้น...แต่ยังไม่มีการพูดกัน(ทาบทาม)" พล.อ.พัลลภ กล่าวถึงการพบปะกับอดีตนายกรัฐมนตรีที่ประเทศจีน
อดีตรองผู้อำนวยการ กอ.รมน.เชื่อว่า แนวร่วมและผู้ชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯ หลายคนอยากเลิกการชุมนุม แต่แกนนำกลุ่มพันธมิตรฯ ทั้ง 5 คนยังไม่ยอมเลิกเพราะรู้ตัวว่ามีคดีรออยู่
"คนก็ถอยไปเยอะแล้ว เริ่มเลอะเทอะแล้ว เอาไสยศาสตร์มาเล่น" พล.อ.พัลลภ กล่าว
พล.อ.พัลลภ กล่าวว่า จากที่ได้เดินทางไปพบกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ยังได้มีโอกาสพูดคุยกัน 2 เรื่อง คือ เรื่องความจงรักภักดีต่อสถาบันและการทำให้สถานการณ์ความขัดแย้งในประเทศยุติลง
ทั้งนี้จากการพูดคุยในประเด็นเรื่องความจงรักภักดีต่อสถาบัน แสดงให้เห็นว่า พ.ต.ท.ทักษิณ มีความจงรักภักดีต่อสถาบัน ซึ่งเป็นสิ่งที่นักเรียนนายร้อย จปร.ทุกคนต่างยึดมั่นในเรื่องนี้อยู่แล้ว ส่วนการทำให้สถานการณ์ความขัดแย้งทางการเมืองภายในประเทศยุติลงนั้น พ.ต.ท.ทักษิณ เชื่อว่าถ้าพันธมิตรฯยอมยุติแล้ว อีกฝ่ายคือกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.) ก็จะยุติการเคลื่อนไหวต่อต้านแน่นอน
"ท่าน(พ.ต.ท.ทักษิณ) บอกว่ามีทางเดียวคือพันธมิตรฯ ต้องยุติบบาท ถ้าพันธมิตรฯ ยุติบทบาท พวกเสื้อแดง เสธ.แดง พล.ต.อ.สล้าง ก็จะจบไป เพราะทุกกลุ่มมีเป้าหมาย คือ พันธมิตรฯ วันนี้รู้อยู่ว่าศัตรูร่วมของพวกนี้คือพันธมิตรฯ ซึ่งถ้าไม่มีเป้าหมายแล้ว ก็จบภารกิจ" อดีต รองผอ.กอ.รมน.กล่าว
พล.อ.พัลลภ กล่าวว่า ได้มีโอกาสหารือเรื่องแนวคิดการเมืองใหม่กับเพื่อนร่วมรุ่น จปร.7 ซึ่งตนเห็นว่าเป็นแนวคิดที่ดีแต่คงจะเป็นไปได้ยาก เนื่องจากยังมองไม่เห็นหนทางที่จะขับเคลื่อนการเมืองใหม่ให้เข้าสู่กระบวนการได้ โดยเฉพาะการเข้าสู่อำนาจรัฐ พร้อมกันนี้ยังรู้สึกกังวลต่อสถานการณ์บ้านเมืองในขณะนี้ที่มีการแบ่งฝักแบ่งฝ่าย และมีแนวโน้มที่จะก่อจราจลกลางเมือง
ในขณะที่นึกถึงคำพูดของนายอานันท์ ปันยารชุน อดีตนายกรัฐมนตรี ที่เคยบอกว่าผู้ที่จะแก้ไขความขัดแย้งทางการเมืองในขณะนี้ได้มีเพียง พ.ต.ท.ทักษิณ คนเดียว ดังนั้น เหล่านี้จึงเป็นเหตุผลให้ต้องหาโอกาสเดินทางไปหารือกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่ประเทศจีน
"เพื่อน จปร.7 ได้คุยปัญหานี้กัน(ความขัดแย้งของบ้านเมือง) แนวโน้มเขาต้องการให้ผมไปช่วย พล.ต.จำลอง ผมบอกว่าแนวทางของพันธมิตรฯเรื่องการเมืองใหม่ ผมรู้สึกว่าดี แต่มองแล้วขอคำตอบว่า การเมืองใหม่จะเข้าสู่อำนาจรัฐอย่างไร เพราะมันต้องได้อำนาจรัฐถึงจะเปลี่ยนแปลงการเมืองได้ แต่คุณสันติอหิงสา รัฐธรรมนูญก็ไม่แก้ ไม่มี ส.ส. ทุกคนก็ตอบไม่ได้ แสดงว่าการเมืองใหม่เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้" พล.อ.พัลลภ ระบุ