คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) แถลงว่า คณะกรรมการ ป.ป.ช.มีมติเป็นเอกฉันท์ 9 ต่อ 0 ชี้มูลความผิดทางอาญานายสมัคร สุนทรเวช อดีตผู้ว่าราชการ กทม., นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าราชการ กทม., นายโภคิน พลกุล อดีต รมว.มหาดไทย, นายประชา มาลีนนท์ อดีต รมช.มหาดไทย, นายวัฒนา เมืองสุข อดีต รมว.พาณิชย์ ในคดีทุจริตการจัดซื้อรถดับเพลิง เรือดับเพลิง และอุปกรณ์บรรเทาสาธารณภัยของ กทม. โดยจะส่งเรื่องให้อัยการฟ้องดำเนินคดีต่อศาลฎีกาแผนดคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง
นายกล้านรงค์ จันทิก กรรมการ ป.ป.ช.ในฐานะโฆษก ป.ป.ช. กล่าวว่า คณะกรรมการฯ เห็นว่าคดีทุจริตการจัดซื้อรถดับเพลิงและเรือดับเพลิงของ กทม.ซึ่งมีผู้ถูกกล่าวหา 11 ราย เป็นโครงการที่มีขั้นตอนการพิจารณาไม่ถูกต้อง เนื่องจากมีการทำสัญญาการค้าต่างตอบแทนภายหลังจากที่มีการลงนามในสัญญา A.O.U. ไปแล้ว ซึ่งถือว่าขัดต่อประกาศของกระทรวงพาณิชย์เกี่ยวกับการทำการค้าต่างตอบแทน และการทำสัญญา A.O.U. เป็นการทำข้อตกลงที่ไม่ถูกต้องสมบูรณ์ของการทำข้อตกลงระหว่างรัฐต่อรัฐ
นอกจากนั้น การทำสัญญาการค้าต่างตอบแทนยังไม่ได้เป็นประโยชน์ต่อประเทศ เนื่องจากเป็นการแลกกันสินค้าไก่ต้มสุก ซึ่งสามารถส่งออกได้ตามปกติอยู่แล้ว เพียงแต่นำรายการไปแจ้งว่าให้ได้ส่งไปครบตามสัญญาเท่านั้น และยังเป็นการเอื้อประโยชน์ให้กับบริษัทเอกชนที่เป็นญาติกับนายวัฒนา นอกจากนั้นยังมีการเสนอราคาที่ไม่เป็นธรรม หลีกเลี่ยงการแข่งขันราคา เป็นการช่วยเหลือบริษัทผู้ขายรถและเรือดับเพลิง ซึ่งเป็นความร่วมมือของผู้ถูกกล่าวหา
คณะกรรมการ ป.ป.ช.จึงมีมติว่า นายโภคิน, นายประชา, นายวัฒนา, นายสมัคร และ พล.ต.ต.อธิลักษณ์ ตันชูเกียรติ ในสมัยที่เป็นผู้อำนวยการสำนักป้องกันสาธารณภัย กทม. กระทำผิดฐานปฏิบัติหน้าที่หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ อันก่อให้เกิดความเสียหายแก่ทางราชการ
ทั้งนี้ กรณีของนายอภิรักษ์ มีความผิดทางอาญากรณีสั่งเปิดแอลซีกับธนาคารกรุงไทย เพื่อชำระเงินบริษัท สไตเออร์ เดมเลอร์ พุค สเปเซียล ฟาห์ซอย เอจี แอนด์ โคเคจี ทั้งๆ ที่รู้ว่าการพิจารณาโครงการดังกล่าวผิดกฎหมาย เนื่องจากก่อนหน้านั้นได้เคยมีคำสั่งให้ชะลอ และตรวจสอบตามที่มีการร้องเรียนว่าเป็นการจัดซื้อที่ไม่โปร่งใส มีราคาแพงเกินความเป็นจริง
นอกจากนั้น คณะกรรมการ ป.ป.ช.ยังมีมติเป็นเอกฉันท์ 9 ต่อ 0 ว่า นายโภคิน, นายประชา, นายวัฒนา, นายสมัคร, พล.ต.ต.อธิลักษณ์ และนายอภิรักษ์ รวมทั้งบริษัท สไตเออร์ เดมเลอร์ พุค สเปเซียล ฟาห์ซอย เอจี แอนด์ โคเคจี ของออสเตรีย ผู้ผลิตรถดับเพลิงและอุปกรณ์ดับเพลิง มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 ประกอบมาตรา 883 และ มีความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2542 ก็จะสำนวนส่งอัยการเพื่อส่งฟ้องดำเนินคดีต่อศาลฎีกาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง
ส่วนผู้ถูกกล่าวหาที่เหลือ ได้แก่ นางณฐนนท์ ทวีสิน อดีตปลัด กทม.นั้น คณะกรรมการ ป.ป.ช.มีมติ 8 ต่อ 1 เห็นว่ามีความผิดวินัยร้ายแรงฐานประมาทเลินเล่อ เนื่องจากรู้ว่าโครงการดังกล่าวมีความผิดพลาดเกิดขึ้น แต่ไม่ได้ทักท้วงหรือแก้ไขปัญหา แต่ไม่มีความผิดทางอาญา, พล.ต.ต.อธิลักษณ์ ก็มีความผิดวินัยร้ายแรงด้วย ส่วนนายราเชนทร์ พจนสุนทร ในสมัยที่ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ มึความผิดวินัยไม่ร้ายแรง
ขณะที่นายสมศักดิ์ คุณเงิน อดีตเลขานุการ รมว.มหาดไทย คณะกรรมการ ป.ป.ช.มีมติ 9 ต่อ 0 ว่าไม่มีความผิด และ นายมาริโอ มีน่าร์ ในฐานะผู้แทนบริษัท สไตเออร์ เดมเลอร์ พุค สเปเซียลฟาห์ซอย เอจี แอนด์ โคเคจี คณะกรรมการ ป.ป.ช.ก็มีมติ 8 ต่อ 1 ว่าไม่มีความผิดเช่นกัน