นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี กล่าวยอมรับว่าจะมีการปรับคณะรัฐมนตรี หลังเสร็จงานพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพฯ ส่วนจะมีการปรับเปลี่ยนกี่ตำแหน่งยังไม่สามารถให้รายละเอียดได้ โดยจะขอพิจารณาก่อน แต่เบื้องต้นมีตำแหน่งรตม.ว่างอยู่ 1 ตำแหน่ง
ส่วนปัญหาความขัดแย้งระหว่าง นายโอฬาร ไชยประวัติ รองนายกรัฐมนตรี กับนายไชยา สะสมทรัพย์ รมว.พาณิชย์นั้น เห็นว่าคงไม่จำเป็นต้องเรียกบุคคลทั้งสองมาหารือ หรือเป็นกาวใจ เพราะเชื่อว่าแต่ละคนต่างมีเจตนาดีต่อบ้านเมือง และมีความตั้งใจดีในการทำงาน
"จะดูเวลาที่เหมาะสมที่จะปรับครม. ซึ่งควรเป็นหลังงานพระราชพิธีฯ ...ส่วนปัญหาความขัดแย้ง คงไม่ต้องถึงการเรียกคุย เชื่อว่าท่านพูดคุยกันได้ ไม่ต้องมีกาวใจ" นายกรัฐมนตรี กล่าว
นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) แจ้งข้อกล่าวหา นายนพดล ปัทมะ อดีต รมว.ต่างประเทศ และคณะรัฐมนตรีในรัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช เป็นนายกรัฐมนตรี กระทำขัดรัฐธรรมนูญมาตรา 190 ในการลงนามแถลงการณ์ร่วมรัฐบาลไทย-กัมพูชา กรณีขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลกว่า เรื่องนี้ ครม.พร้อมที่จะชี้แจง
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังไม่เห็นเอกสารรายละเอียดจาก ป.ป.ช.ว่าจะต้องชี้แจงเรื่องใดบ้าง แต่ยืนยันว่ารัฐบาลตั้งใจจะอยู่ทำงานจนครบวาระ รัฐมนตรีทุกคนได้พยายามทำงาน แต่กลับเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้น
"บางครั้ง การทำงาน รู้สึกส่วนตัวว่า พยายามทำงานให้สมกับที่ประชาชนเลือกตั้งมา บางครั้งไม่ได้รู้สึกว่า ทำอะไรที่เป็นพิษเป็นภัยต่อบ้านเมือง แต่มีเหตุการณ์แบบนี้ก็แปลกดี" นายกรัฐมนตรี กล่าว
สำหรับกระแสข่าวว่าจะมีเหตุการณ์รุนแรง หลังวันที่ 16 พ.ย. นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จากการสอบถามหน่วยงานด้านข่าวกรอง ยังไม่ได้มีการแจ้งเหตุถึงความรุนแรงเกิดขึ้น แต่ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดูแลสถานการณ์เป็นพิเศษ และอยากขอร้องให้ทุกคน ร่วมไว้อาลัย ถวายความจงรักภักดี และหลังเสร็จสิ้นงานพระราชพิธีแล้ว ทุกคนควรหันหน้ามาร่วมมือกันเพื่อประเทศชาติ เพราะเหตุการณ์รุนแรงไม่มีประโยชน์ต่อบ้านเมือง ทำให้ต่างชาติขาดความเชื่อมั่น ทุกคนควรหันมาพูดคุยด้วยเหตุผล