นายกฯ ยอมรับห่วงสถานการณ์ม็อบ พธม.ปิดล้อมรัฐสภา/ยันไม่สอดไส้แก้ รธน.

ข่าวการเมือง Sunday November 23, 2008 12:16 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ยอมรับเป็นห่วงสถานการณ์บ้านเมืองกรณีที่กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยจะเคลื่อนย้ายผู้ชุมนุมไปปิดล้อมอาคารรัฐสภา เพื่อคัดค้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งยังไม่มีการบรรจุญัตติดังกล่าวในวาระการประชุม ทั้งนี้ได้แต่งตั้งผู้บัญชาการทหารบก(ผบ.ทบ.) เป็นประธานคณะกรรมการติดตามสถานการณ์เพื่อให้คำแนะนำแก่ผู้ปฏิบัติหน้าที่รักษาความสงบเรียบร้อย โดยไม่มีการใช้กำลังสลายการชุมนุม

"รู้สึกกังวลกับเรื่องนี้ ซึ่งได้ยืนยันแล้วว่าไม่มีการพิจารณาแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ แต่จะเป็นประชุมขอความเห็นชอบในเรื่องของกฏหมายที่จะต้องลงนามร่วมกับประเทศอาเซียนในการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนในเดือนธันวาคมนี้" นายสมชาย กล่าวระหว่างการเดินทางไปร่วมประชุมสุดยอดผู้นำเอเปคที่ประเทศเปรู

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การขอความเห็นชอบจากที่ประชุมรัฐสภาเกี่ยวกับเรื่องของกฏหมายที่ต้องลงนามร่วมกับต่างประเทศนั้นเป็นไปตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 190 ซึ่งหากมีใครขัดขวางก็ถือว่าเป็นการจงใจขัดรัฐธรรมนูญ เนื่องจากเป็นเรื่องผลประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชน ซึ่งหากไม่สามารถพิจารณากฏหมายดังกล่าวได้จะทำให้เกิดความเสียหายอย่างมาก ซึ่งอยากให้ทุกคนได้เข้าใจและคำนึงถึงประโยชน์ของประเทศ ส่วนจะย้ายสถานที่ประชุมหรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของประธานรัฐสภา

ส่วนกรณีแกนนำกลุ่มพันธมิตรฯ ประกาศจะใช้กำลังและอาวุธตอบโต้เจ้าหน้าที่นั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ไม่อยากพูดเรื่องนี้ เพราะไม่อยากให้มาถกเถียงกันว่าใครเป็นคนทำร้ายหรือป้องกันตัว เพราะรัฐบาลไม่ต้องการให้เกิดความเสียหายทั้งสองฝ่าย ซึ่งได้กำชับเจ้าหน้าที่ตำรวจไปแล้วว่า ไม่ให้ใช้กำลังและทำให้ประชาชนได้รับบาดเจ็บ แต่ขอให้ผู้ชุมนุมอย่าสร้างความวุ่นวาย ซึ่งตนเองไม่ปรารถนาให้เกิดความรุนแรง และขอร้องทุกฝ่ายไม่ควรใช้ความรุนแรงเข้ามาแก้ไขปัญหาของบ้านเมือง

เมื่อวันที่ 7 ต.ค.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจใช้แก๊สน้ำตาสลายการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯ ที่ปิดล้อมอาคารรัฐสภาเพื่อชัดขวาบงไม่ให้รัฐบาลแถลงนโยบาย จนส่งผลให้มีผู้ได้รับบาดเจ็นเป็นจำนวนมาก

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาชุดหนึ่งเพื่อติดตามสถานการณ์บ้านเมืองโดยมี พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ.เป็นประธาน ซึ่งไม่ได้มีหน้าที่ไปปราบปรามใคร แต่เป็นเพียงการทำหน้าที่ติดตามสถานการณ์เพื่อคอยให้คำแนะนำต่างๆ กับผู้ที่เกี่ยวข้อง ไม่จำเป็นต้องใช้กำลัง และหากการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจทำอะไรไม่ถูกต้องก็ต้องรับผิดภายใต้กรอบของกฏหมายเช่นเดียวกัน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ