โฆษกกระทรวงกลาโหม ระบุทหารจะยึดแนวทางสันติวิธีและปฏิบัติการภายใต้กรอบของกฎหมายและนโยบายของรัฐในการดูแลการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย โดยกองทัพจัดกองร้อยรักษาความสงบเข้าไปช่วยการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจ
"โดยภาพรวมยึดแนวทางสันติ ปฏิบัติการภายใต้กรอบของกฎหมายและนโยบายของรัฐ" พล.ท.พีระพงษ์ มานะกิจ โฆษกกระทรวงกลาโหม กล่าวทางรายการวิทยุเช้านี้
เบื้องต้นกองทัพประเมินว่าตำรวจสามารถควบคุมสถานการณ์ครั้งนี้ได้ เพราะไม่มีใครอยากให้เกิดเหตุการณ์รุนแรง แม้กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยจะมีสิทธิแสดงออกทางการเมืองภายใต้กรอบรัฐธรรมนูญแต่น่าจะสามารถใช้กรอบของกฎหมายได้ โดยปล่อยให้มีการประชุมรัฐสภา เพราะเป็นเรื่องที่ทำให้เกิดความเสียหายต่อส่วนรวม
"ถ้ารัฐสภาไม่บรรจุวาระเรื่องเกี่ยวกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ไม่มีความจำเป็นหรือความชอบธรรมที่จะไปใช้กำลัง" พล.ท.พีระพงษ์ กล่าว
โฆษกกระทรวงกลาโหม กล่าวว่า คงไม่สามารถชี้ชัดลงไปได้ว่าสถานการณ์ความรุนแรงขนาดไหนจะถึงเวลาที่กองทัพจะส่งกำลังพลเข้ามาปฏิบัติภารกิจ ซึ่งต้องเป็นไปตามกรอบกฎหมายที่ฝ่ายการเมืองมอบเป็นนโยบายให้ดำเนินการ โดยการที่นายกรัฐมนตรีมอบอำนาจให้ผู้บัญชาการทหารบก(ผบ.ทบ.) เป็นประธานคณะกรรมการติดตามสถานการณ์ร่วม(คตร.) นั้นจะเป็นไปตามขั้นตอนของการบังคับใช้กฎหมาย หรือการประกาศกฎอัยการศึกซึ่งสถานการณ์ในขณะนี้เป็นเรื่องที่ไม่ชอบธรรม
"อำนาจพิเศษจะมีเมื่อมีการใช้กฎหมายความมั่นคง ครม.ต้องลงมติประกาศพื้นที่ภายใต้พระราชบัญญัติความมั่นคงแล้ว ผบ.เหตุการณ์ถึงจะสามารถใช้อำนาจอย่างอื่นได้" พล.ท.พีระพงษ์ กล่าว