พล.ต.จำลอง ศรีเมือง และ นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย แถลงข่าวที่สนามบินสุวรรณภูมิเพื่อยืนยันว่ากลุ่มพันธมิตรฯ จะชุมนุมต่อไปจนกว่านายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี จะลาออกจากตำแหน่ง
นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานกลุ่มพันธมิตรฯ แถลงว่า แกนนำพันธมิตรฯ รับทราบมติของที่ประชุมคณะกรรมการติดตามสถานการณ์ร่วมแล้วและยืนยันรัฐบาลจะต้องลาออกเท่านั้น หากนายกรัฐมนตรีตัดสินใจยุบสภากลุ่มพันธมิตรฯ ก็จะปักหลักชุมนุมต่อไป เนื่องจากปัญหาขณะนี้มีวิกฤติเกินกว่าที่จะใช้ระบบรัฐสภาเข้ามาแก้ไข โดยเสนอความเห็นให้มีการตั้งรัฐบาลประชาภิวัฒน์ที่มีตัวแทนจากหลายฝ่ายเข้ามาร่วม ไม่ใช่เป็นรัฐบาลที่เข้ามาขัดตาทัพ แต่ต้องมีวาระและกรอบการทำงานที่ชัดเจน
"วิกฤติบ้านเมืองขณะนี้ใหญ่เกินไปที่จะให้ผลเลือกตั้งชี้ขาด เพราะเป็นวิธีการที่ล้าหลัง การยุบสภาจะไม่ทำให้ความขัดแย้งในสังคมหมดไป ปัญหายังไม่มีที่สิ้นสุด"นายสุริยะใส กล่าว
แนวทางรัฐบาลประชาภิวัฒน์จะเป็นทางออกที่แท้จริง เพราะทุกวันนี้หากนายกรัฐมนตรียังยืนยันที่จะไม่ลาออก พันธมิตรก็ยืนยันที่จะไม่ถอนและไม่กลับ โดยจะยึดพื้นที่การชุมนุมทั้ง 3 จุดต่อไป หากนายสมชายไ ม่ยอมลาออกก็จะไม่มีการเจรจาอย่างเด็ดขาด
"ผมไม่อยากไปขอร้องคุณสมชาย ที่มีท่าทีที่เยือกเย็น เห็นประชาชนฆ่ากันทุกวันก็ยังมานั่งท่องคาถาไม่ยุบสภาไม่ลาออก"นายสุริยะใส กล่าว
และยอมรับว่าการยึดท่าอากาศยานสุวรรณภูมิถือเป็นจุดยืนสูงสุดที่ต้องการต่อรองและกดดันให้รัฐบาลลาออก ส่วนผลที่จะตามมาภายหลังว่าใครผิดใครถูกนั้น กลุ่มพันธมิตรฯก็ยอมรับสภาพอยู่แล้วไม่ว่าจะถูกดำเนินคดีหรือไม่และจะไม่หนีไปต่างประเทศ ซึ่งความจริงการยึดพื้นที่ต่างๆ เป็นแค่ปลายเหตุ เพราะถึงแม้จะยอมยุติการชุมนุมและคืนพื้นที่ให้รัฐบาลบริหารประเทศต่อไป ปัญหาก็ยังไม่หมด เพราะมองว่ารัฐบาลบริหารประเทศล้มเหลว
"รัฐบาลประชาภิวัฒน์ที่ผมบอก ไม่ใช่ให้ พล.ต.จำลองเป็นนายกฯ แล้วพันธมิตรมีโควต้าเป็นรัฐมนตรี"นายสุริยะใส กล่าว
อย่างไรก็ตาม รู้สึกเห็นใจ ผบ.ทบ.ที่มีความลำบากใจ แต่พันธมิตรฯ ก็ต้องการให้กองทัพเข้ามาทำการปฏิวัติร่วมกับประชาชนเพื่อให้เกิดการเมืองใหม่ ไม่ใช่แค่การทำรัฐประหารเพื่อเปลี่ยนรัฐบาล หากนานไปแล้วกองทัพไม่ตัดสินใจอะไร พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ก็จะยิ่งได้ความชอบธรรมมากขึ้น