แกนนำ นปช.เร่งรัฐบาลประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ หากช้ามวลชนพร้อมแสดงพลัง

ข่าวการเมือง Thursday November 27, 2008 14:58 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

แกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการแห่งชาติ(นปช.) สนับสนุนให้รัฐบาลประกาศใช้ พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินโดยเร็ว พร้อมขู่หากรัฐบาลยังไม่ตัดสินใจดำเนินการใดๆ ในช่วง 1-2 วันนี้ กลุ่มคนเสื้อแดงก็เตรียมพร้อมที่จะออกมาแสดงพลัง โดยขอให้จับตาดูผลการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) ในบ่ายวันนี้ว่าจะมีการประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ หรือไม่

"น่าจะนำ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ กลับมาใช้อีกครั้ง หลังจากใช้ไปแล้วครั้งหนึ่งแต่เป็นหมัน การใช้ครั้งนี้เพื่อทดสอบระบอบประชาธิปไตยว่าเข้มแข็งพอที่จะอยู่คู่กับประเทศนี้หรือไม่ ผมเชื่อในพลังรากหญ้าว่าจากนี้ประชาธิปไตยจะต้องมาจากรากหญ้าต่อต้านรัฐประหาร" นายวีระ มุสิกพงศ์ แกนนำกลุ่ม นปช. กล่าว

นายวีระ กล่าวว่า การที่กลุ่มพันธมิตรฯ ไม่ตอบรับและรัฐบาลปฏิเสธข้อเสนอของที่ประชุมคณะกรรมการร่วมติดตามสถานการณ์(คตร.) ถือว่าข้อเสนอดังกล่าวเป็นหมัน ทางออกที่ดีที่สุดในขณะนี้ คร.ควรมีมติที่จะดำเนินการตามกฎหมาย โดยให้อำนาจตำรวจและทหารในการใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ เข้ามาดูแลสถานการณ์อีกครั้ง เพื่อแสดงให้เห็นว่า เรายังมีกฎหมายที่จะดูแลอยู่

"หากรัฐบาลไม่ดำเนินการใดๆ ภายในวันนี้หรือวันพรุ่งนี้ กลุ่มคนเสื้อแดงและประชาชนต้องคงต้องออกมาดำเนินการต่อไป ขอยืนยันว่าพลังประชาชนนั้นจะออกมาไม่นานเกินรอ" นายวีระ กล่าว

เมื่อวานนี้(26 พ.ย.) มติ คตร.เสนอให้นายกรัฐมนตรีประกาศยุบสภาแล้วจัดการเลือกตั้งใหม่โดยเร็ว พร้อมกันนี้ให้กลุ่มพันธมิตรฯ ยุติการชุมนุม

นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำ นปช.กล่าวว่า สิ่งที่รัฐบาลดำเนินการได้ทันที คือ ทำตามคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวของศาลแพ่งที่ให้แกนนำกลุ่มพันธมิตรฯ นำผู้ชุมนุมออกจากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ กไม่ได้รับการสนับสนุนจากตำรวจหรือทหารกรณีที่กรมบังคับคดีจะนำคำสั่งไปติดประกาศก็ควรเปลี่ยนตัวผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และพิจารณาท่าทีของผู้บัญชาการทหารบกว่าจะเข้ามาขัดขวางหรือไม่ โดยเกรงว่าคำสั่งศาลแพ่งจะไม่มีผลต่อการบังคับใช้เหมือนกับกรณีที่ทำเนียบรัฐบาล

กรณีที่ คตร.เสนอให้นายกรัฐมนตรียุบสภานั้น ในฐานะที่ตนเองเป็นนักการเมืองเก่าไม่กลัวการยุบสภา แต่ถ้ายุบแล้วเข้ามาอีกก็ต้องเจอกลุ่มพันธมิตรฯ อีก ดังนั้น การยุบสภาจึงไม่ใช่วิธีแก้ปัญหา ตอนนี้ภาคประชาชนเตรียมความพร้อมหากฝ่ายกฎหมายไม่สามารถดำเนินการแก้ปัญหาในขณะนี้ได้


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ