สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือระหว่างประเทศ มูดี้ส์ อินเวสเตอร์ส เซอร์วิส ประกาศลดแนวโน้มอันดับความน่าเชื่อถือของประเทศไทยเป็น "เชิงลบ" จากเดิม "มีเสถียรภาพ" เนื่องจากสถานการณ์การเมืองที่ไม่แน่นอนในประเทศกำลังส่งผลกระทบอย่างหนักต่อเศรษฐกิจของประเทศ
มูดี้ส์ระบุว่า อันดับเครดิตสกุลเงินต่างประเทศของไทยขณะนี้อยู่ที่ Baa1 แต่สถานการณ์การเมืองที่ไร้ทิศทางของไทยซึ่งส่งผลกระทบต่อภาวะเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ ทำให้มูดี้ส์ตัดสินใจลดแนวโน้มอันดับเครดิตของไทยลง โดยมูดี้ส์มองว่าวิกฤตการณ์ทางการเมืองจะส่งผลกระทบต่อความน่าเชื่อถือของรัฐบาลไทยหากไม่เร่งแก้ไขให้กลับคืนสู่ภาวะปกติ
ทอม เบิร์น รองประธานอาวุโสของมูดี้ส์สาขาสิงคโปร์ กล่าวว่า "การที่ฝ่ายตุลาการและฝ่ายบริหารของไทยและเจ้าหน้าที่ของรัฐไม่สามารถยับยั้งสถานการณ์ที่บานปลายซึ่งเกิดขึ้นจากการที่กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยบุกยึดสนามบินสุวรรณภูมิและทำเนียบรัฐบาลได้นั้น สะท้อนให้เห็นว่าไทยหละหลวมในเรื่องเหล่านี้"
เบิร์นกล่าวว่า นอกจากนี้ การเมืองของไทยได้เข้าสู่ภาวะชะงักงัน หลังจากตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ มีมติเป็นเอกฉันท์วินิจฉัยให้ยุบพรรคพลังประชาชน พรรคชาติไทย และพรรคมัชฌิมาธิปไตย ซึ่งส่งผลให้นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ พ้นสภาพจากการเป็นนายกรัฐมนตรี
มูดี้ส์ยังกล่าวด้วยว่า วิกฤตการณ์ทางการเมืองได้ตอกย้ำเศรษฐกิจของไทยซึ่งได้รับผลกระทบอยู่แล้วจากวิกฤตการณ์การเงินที่ลุกลามไปทั่วโลก ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวจะส่งผลกระทบอย่างหนักของพื้นฐานความน่าเชื่อถือของไทย และคาดว่าสถานการณ์จะเลวร้ายขึ้นหากไทยไม่สามารถยับยั้งวิกฤตการณ์ทางการเมืองที่ส่อเค้าบานปลายได้
อย่างไรก็ตาม ไทยยังมีปัจจัยบวกที่ช่วยประคับประคองเศรษฐกิจเอาไว้ได้บางส่วน นั่นคือการที่สถาบันการเงินของไม่ได้รับผลกระทบมากนักจากวิกฤการณ์การเงินในต่างประเทศเมื่อปีที่แล้ว นอกจากนี้ นโยบายการเงินที่แข็งแกร่งยังช่วยให้ไทยสามารถรับมือกับภาวะเงินเฟ้อ และอัตราแลกเปลี่ยนของไทยก็ไม่ผันผวนเหมือนกับประเทศอื่นๆ แม้ต้องเผชิญกับมรสุมทางการเมืองก็ตาม
ถึงกระนั้นก็ตาม มูดี้ส์มองว่าภาวะถดถอยของเศรษฐกิจโลกที่รุนแรงขึ้นจะเริ่มส่งผลกระทบต่อไทยเนื่องจากระบบเศรษฐกิจของไทยจำเป็นต้องพึ่งพาการค้า ประกอบกับสถานการณ์การเมืองที่รุมเร้าภายในประเทศ จะยิ่งส่งผลให้อัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยชะลอตัวลง และส่งผลกระทบต่อดุลการชำระเงินของไทยในปีหน้าด้วย
มูดี้ส์คาดว่า หากสถานการณ์การเมืองของไทยยังคงผันผวนต่อไป ไทยอาจไม่สามารถใช้นโยบายที่จะรับมือกับภาวะเศรษฐกิจโลก ซึ่งจะฉุดรั้งเศรษฐกิจไทยให้ถดถอยลงในที่สุด ทั้งนี้ สถานการณ์ดังกล่าวอาจส่งผลให้แนวโน้มความน่าเชื่อถือของไทยถูกปรับลดลงอีกในวันข้างหน้า อีกทั้งจะสร้างความเสียหายต่ออัตราการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ และจะฉุดรั้งทุนสำรองเงินตราต่างประเทศของไทยให้ทรุดตัวลงด้วย