ผลการเลือกตั้งระดับรัฐของอินเดียในวันนี้อาจถือได้ว่าเป็นการลงประชามติว่าประชาชนให้การสนับสนุนหรือไม่สนับสนุนพรรคคองเกรสของนายกรัฐมนตรีมานโมฮาน ซิงห์ ขณะที่รัฐบาลของเขากำลังเผชิญหน้ากับปัญหาการก่อการร้ายและภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ
การเลือกตั้งในรัฐจัณฑีครห์, มัธยมประเทศ, มิโซรัม, เดลี และ ราชาสถาน จัดแบ่งเป็นหลายขั้นตอนตั้งแต่วันที่ 14 พ.ย. ถึง 4 ธ.ค. หรือก่อนการเลือกตั้งทั่วไปซึ่งจะมีขึ้นในเดือนพ.ค.ปีหน้า และจะมีการนับคะแนนในวันนี้
เนื่องจาก 4 รัฐจากทั้งหมดข้างต้นมีการลงคะแนนช่วงระหว่างหรือหลังเหตุก่อการร้ายในมุมไบเมื่อวันที่ 26-29 พ.ย.ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตถึง 163 คน ส่งผลให้การก่อการร้ายกลายเป็นประเด็นหลักที่ผู้มีสิทธิเลือกตั้งให้ความสำคัญที่สุด
"ผลการเลือกตั้งในวันนี้จะแสดงให้เห็นว่าประชาชนชาวอินเดียต้องการนโยบายแก้ปัญหาที่เด็ดขาดและรุนแรงกว่านี้หรือไม่" เอ็น. บาห์สคารา ราโอ ประธานศูนย์การศึกษาสื่อในนิวเดลี กล่าว
นายราโอกล่าวเพิ่มเติมว่า ผู้มีสิทธิเลือกตั้งอาจเลือกพรรคพาราติยา จานาทา ซึ่งเป็นคู่แข่งสำคัญของพรรครัฐบาล หากพวกเขานำเสนอนโยบายที่ต่อต้านปากีสถาน ซึ่งคาดว่าเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการก่อการร้ายครั้งนี้
พรรคพาราติยา จานาทา โทษว่ารัฐบาลอินเดียอ่อนเกินไปในเรื่องการก่อการร้ายตั้งแต่ก่อนเกิดเหตุสลดที่มุมไบ โดยนายราโอกล่าวว่า "การก่อการร้ายที่มุมไบทำให้พรรคพาราติยา จานาทา ได้รับคะแนนนิยมมากขึ้น เนื่องจากทางพรรคชูประเด็นดังกล่าวเพื่องัดข้อกับรัฐบาลมาโดยตลอด"
ทั้งนี้ รัฐบาลอินเดียกล่าวหาว่ากลุ่มก่อการร้ายจากปากีสถานเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการก่อการร้ายที่มุมไบ แต่ยืนยันว่าอินเดียจะไม่มีการตอบโต้ทางทหารต่อปากีสถาน ในขณะที่ปากีสถานก็เรียกร้องให้อินเดียแสดงหลักฐานว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นฝีมือของปากีสถานจริง สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงาน