นายประพันธ์ นัยโกวิท กรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ด้านบริหารงานเลือกตั้ง เปิดเผยว่า ที่ประชุม กกต.มีมติเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง ส.ส.ระบบแบ่งเขตที่เป็นกรรมการบริหารพรรครวมทั้งสิ้น 29 คน แบ่งเป็นของพรรคพลังประชาชน(พปช.) 13 คน และพรรคชาติไทย(ชท.) 16 คน โดยจะจัดให้มีการเลือกตั้งซ่อม ส.ส.ทั้ง 26 เขตในวันที่ 11 ม.ค.52
ส่วนพรรคมัชฌิมาธิปไตยที่ถูกศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุบพรรคเช่นเดียวกันนั้น หัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรคไม่ได้เป็น ส.ส.ระบบแบ่งเขต
สำหรับนายพิเชษฐ ตันเจริญ อดีตกรรมการบริหารพรรคพลังประชาชน, นายประชัย เลี่ยวไพรัตน์ อดีตหัวหน้าพรรคมัชฌิมาธิปไตย, นายชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ อดีตกรรมการบริหารพรรคชาติไทย ถือว่าได้ลาออกไปก่อนที่จะมีเหตุถึงยุบพรรค ดังนั้น จึงไม่มีรายชื่ออยู่ในบัญชีที่ถูกเพิกถอนสิทธิ และหลังจากนี้ กกต.จะส่งร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดวันเลือกตั้งให้กับคณะรัฐมนตรีรักษาการเพื่อดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป
นายประพันธ์ ยังแสดงความเห็นส่วนตัวถึงกรณี ส.ส.สัดส่วนของพรรคพลังประชาชนที่ย้ายไปพรรคเพื่อไทยว่า เป็นเรื่องของผู้ที่ยังสงสัยต้องไปดำเนินการ โดยมาตรา 91 ระบุว่า ให้ ส.ส.1 ใน 10 ส่งเรื่องให้ประธานสภาผู้แทนราษฎรส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณา อย่างไรก็ดี ที่ประชุม กกต.วันนี้ไม่ได้ยกเรื่องดังกล่าวขึ้นหารือเพราะไม่มีใครยื่นเรื่องให้ กกต.พิจารณา
ส่วนจะมีผลต่อการโหวตเลือกนายกหรือไม่นั้น เห็นว่า เรื่องนี้ยังไม่มีการพิจารณาวินิจฉัยไปในทิศทางใด ดังนั้นโดยหลักแล้วเห็นว่า ผู้ที่ กกต.ประกาศรับรองเป็น ส.ส.ถือว่าเป็นผู้ที่มีคุณสมบัติเป็น ส.ส.สมบูรณ์ ยังไม่มีคำสั่งใดมาเปลี่ยนแปลงการเป็น ส.ส.
สำหรับระยะเวลาการสังกัดพรรคการเมืองนั้น นายประพันธ์ กล่าวว่า การสมัครลงเลือกตั้ง ส.ส.ในพื้นที่ที่ถูกเพิกถอนสิทธินั้น ตามกฎหมายกำหนดให้ผู้ที่จะลงสมัครรับเลือกตั้งต้องสังกัดพรรคการเมืองไม่ต่ำกว่า 90 วัน ยกเว้นกรณีที่มีการยุบสภาและมีการเลือกตั้งครั้งแรกของรัฐธรรมนูญปี 50 ที่อนุญาตให้สังกัดพรรคเพียง 30 วัน ดังนั้น กรณีนี้จึงต้องยึดตามรัฐธรรมนูญ