นายพิทูร พุ่มหิรัญ เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า ได้ทำเรื่องทูลเกล้าฯ เพื่อขอพระราชทานพระราชกฤษฎีกาเปิดประชุมสภาสมัยวิสามัญส่งไปยังสำนักพระราชวังตั้งแต่ช่วงบ่ายเมื่อวาน(8 ธ.ค.) เบื้องต้นจากการตรวจสอบรายชื่อที่พรรคประชาธิปัตย์รวมทั้งพรรคการเมืองและกลุ่มการเมืองที่สนับสนุนได้ยื่นมา 240 ชื่อ พบว่ามีการลงลายมือชื่อซ้ำกันและทำให้เหลือรายชื่อผู้สนับสนุนที่ถูกต้องเพียง 232 คน แต่ถือว่าครบจำนวน 1 ใน 3 ตามที่รัฐธรรมนูญมาตรา 129 กำหนดไว้
ภายหลังมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ เปิดประชุมสภาสมัยวิสามัญออกมาแล้ว ประธานสภาฯ จะทำหนังสือนัดประชุมสมาชิกต่อไป เบื้องต้นคาดว่าจะสามารถเปิดประชุมได้ในสัปดาห์หน้า
เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงปัญหาสมาชิกภาพของ ส.ส.สัดส่วนของพรรคการเมืองที่ถูกยุบว่า สภาผู้แทนราษฎรไม่มีข้อสงสัยในประเด็นดังกล่าว แต่หากผู้ใดมีข้อสงสัยสามารถยื่นเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยได้
ปัจจุบันมีจำนวน ส.ส.ทั้งหมด 447 คน แต่สามารถลงมติเลือกนายกรัฐมนตรีได้ 438 คน และในการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีนั้น ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 172 ระบุให้สมาชิกต้องลงคะแนนโดยเปิดเผย โดยผู้ที่ได้รับเลือกให้เป็นายกรัฐมนตรีจะต้องมีเสียงมากกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวนสมาชิกทั้งหมด โดยเสียงกึ่งหนึ่งของสมาชิกที่มีอยู่ในขณะนี้คือ 220 เสียง
ส่วนกรณีที่กลุ่มเสื้อแดงจะออกมาชุมนุมกันที่หน้ารัฐสภาในวันเลือกนายกรัฐมนตรีนั้น นายพิทูร กล่าวว่า ได้เตรียมพร้อมรับสถานการณ์เหมือนกรณีการชุมนุมของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย โดยได้ประสานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ให้ช่วยดูแลความปลอดภัยแล้ว