นายบารัค โอบามา ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐ กล่าวถึงนโยบายในการคัดเลือกบุคคลที่จะมาดูแลนโยบายด้านพลังงานและสิ่งแวดล้อมของสหรัฐว่า จะต้องเป็นผู้เชี่ยวชาญและผู้จัดการที่ประสบความสำเร็จเข้ามาทำหน้าที่ที่จัดได้ว่าเป็นปัจจัยที่ท้าทายมากที่สุดของสหรัฐอยู่ในขณะนี้
บุคคลที่โอบามาได้คัดเลือกคือ สตีเวน ชู เจ้าของรางวัลโนเบลสาขาฟิสิกส์ประจำปี 2540 ให้มาทำหน้าที่รัฐมนตรีกระทรวงพลังงาน และยังได้มีเสนอชื่อลิซ่า แจ็คสัน ให้ทำหน้าที่สำนักงานคุ้มครองพลังงานสหรัฐ (EPA) และยังได้เสนอชื่อให้แครอล บราวเนอร์ อดัตประธาน EPA มารับหน้าที่ประธานสภาพลังงานแห่งชาติ และได้มอบหมายให้แนนซี ซัทลีย์ รับตำแหน่งประธานสภาทำเนียบขาว
บลูมเบิร์กรายงานว่า โอบามากล่าวในการแถลงข่าวภายหลังเปิดโผรายชื่อทีมงานด้านพลังงานว่า ในอดีตได้มีการย้ำถึงเรื่องการหาแหล่งพลังงานทางเลือก แต่การพึ่งพาน้ำมันจากต่างประเทศของสหรัฐก็ยังมีมากขึ้นเรื่อยๆ ดังนั้น ในขณะนี้เป็นเรื่องจำเป็นที่จะต้องมีการเปลี่ยนแปลงแล้ว
ทั้งนี้ ทีมงานด้านพลังงานที่ได้มีการเสนอชื่อมาใหม่นี้ถูกคาดหวังว่า จะช่วยผลักดันให้การจำกัดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของโอบามาสัมฤทธิ์ผล รวมถึงข้อเสนอในการจัดตั้งกองทุนพลังงานสะอาดมูลค่า 1.50 แสนล้านดอลลาร์เพื่อส่งเสริมให้มีการพัฒนาเทคโนโลยีพลังงานที่สามารถนำกลับมาใช้งานใหม่ได้
สตีเวน ชู จะเข้ามาดูแลงบประมาณด้านพลังงานสูงถึงประมาณ 2.3 หมื่นล้านดอลลาร์ และดูแลพนักงานในแผนกต่างๆกว่า 100,000 คน ก่อนหน้านี้ ชู ทำงานเป็นหัวหน้าใน Lawrence Berkeley National Laboratory ซึ่งมีพนักงาน 4,000 คนในเบิร์กเลย์ รัฐแคลิฟอร์เนีย
เอลีน คลอสเซน ประธานพิว เซ็นเตอร์ กล่าวว่า ชู มีผลงานที่โดดเด่นมานานในเรื่องพลังงานทางเลือก การที่เขาเข้ามารับตำแหน่งรมว.พลังงานนี้ถือเป็นการนำประสบการณ์ที่เยี่ยมยอดในด้านการทดลองและการเป็นนักวิทยาศาสตร์ที่มีชื่อเสียงมาใช้กับกระทรวง