ชาวอิรักหลายพันคนได้ออกมารวมตัวกัน เพื่อแสดงพลังเรียกร้องให้ทางการปล่อยตัวผู้สื่อข่าวทีวีชาวอิรักที่ถูกจับกุมตัวหลังก่อเหตุขว้างปารองเท้าใส่ประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู บุช ระหว่างการแถลงข่าวเนื่องในโอกาสที่ผู้นำสหรัฐเดินทางเยือนอิรักเป็นครั้งสุดท้ายก่อนอำลาตำแหน่ง
บีบีซีรายงานว่า ฝูงชนชาวอิรักได้มารวมตัวกันในเขตซาดร์ ซิตี้ ของกรุงแบกแดด เพื่อเรียกร้องให้ทางการปล่อยตัวนายมันตาดาร์ อัล-ไซดี นักข่าวชาวอิรักวัย 29 ปี ซึ่งกลายเป็น "ฮีโร่" ของชาวอิรักจากเหตุการณ์ขว้างรองเท้าใส่ปธน.บุช โดยขณะนี้เขาถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัวอยู่
ผู้สื่อข่าวของบีบีซีรายงานว่า กลุ่มผู้ประท้วงเป็นผู้สนับสนุนนายมอคตาดา อัล-ซาดร์ นักการศาสนานิกายชีอะห์ ผู้ตั้งตนเป็นศัตรูกับสหรัฐ และนอกจากกลุ่มผู้ประท้วงในเมืองหลวงแล้ว ยังมีการชุมนุมกลุ่มเล็กๆในเมืองบาสราและนาจาฟด้วย
ทั้งนี้ หลังเกิดเหตุ รัฐบาลอิรักได้ออกแถลงการณ์กระบุว่า การกระทำดังกล่าวของนายอัล-ไซดี เป็นสิ่งที่น่าละอายและทำลายชื่อเสียงของนักข่าวและวงการสื่อสารมวลชนของอิรักโดยรวม นอกจากนี้ รัฐบาลยังได้เรียกร้องให้นายจ้างของนายอัล-ไซดีออกมาขอโทษออกอากาศด้วย
อย่างไรก็ตาม นอกจากจะไม่ขอโทษแล้ว บรรดาเจ้าหน้าที่ของสถานีโทรทัศน์ อัล-แบกดาดียา ซึ่งเป็นบริษัทที่นายอัล-ไซดีทำงานอยู่นั้น กลับขอร้องให้ทางการปล่อยตัวนายอัล-ไซดี โดยชี้ว่าการกระทำของนายอัล-ไซดี ซึ่งนอกจากขว้างรองเท้าแล้ว ยังรวมถึงการกล่าวคำผรุสวาทใส่ปธน.บุชนั้น ถือเป็นเสรีภาพในการแสดงความคิดความเห็น ซึ่งเป็นสิ่งที่ชาวอเมริกันสัญญากับชาวอิรักเมื่อครั้งบุกเข้าทำสงครามขับไล่นายซัดดัม ฮุสเซ็น
สำหรับสาเหตุที่ทำให้ นายอัล-ไซดี ถอดรองเท้าขว้างใส่ผู้นำสหรัฐนั้น ได้รับการเปิดเผยจากน้องชายของเขาผ่านทางซีเอ็นเอ็นว่า พี่ชายของเขาไม่พอใจอย่างมากที่ประเทศอิรักถูกสหรัฐเข้ามายึดครอง และความรู้สึกต่อต้านของเขาก็ทวีความรุนแรงขึ้น จากการที่ได้เห็นชาวอิรักได้รับความเดือดร้อนไปทั่วทุกหย่อมหญ้า โดยเฉพาะผู้หญิงที่ต้องกลายเป็นม่ายเพราะสามีเสียชีวิต หรือเด็กๆที่ต้องกำพร้า เพราะพ่อแม่ถูกฆ่าโดยไม่รู้อิโหน่อิเหน่