เหตุการโจมตีระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮามาสจะกลายเป็นสถานการณ์ความขัดแย้งที่สร้างแรงกดดันให้กับนายบารัค โอบามา ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐที่มีภารกิจมากมายรอคอยให้สะสาง ทั้งการเมืองและเศรษฐกิจ ซึ่งโอบามาให้คำมั่นก่อนหน้านี้ว่า จะให้ความสำคัญกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในประเทศอิรัก อัฟกานิสถาน และวิกฤตเศรษฐกิจ
บลูมเบิร์กรายงานว่า อิสราเอลได้เตรียมความพร้อมที่จะโจมตีภาคพื้นดิน หลังจากที่ถูกกลุ่มฮามาสยิงจรวดถล่มใส่ที่บริเวณฉนวนกาซ่า ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 285 คน และยังจุดชนวนให้เกิดการประท้วงไปทั่วกลุ่มประเทศอาหรับ โดยผู้นำอิสราเอลยืนยันจะจัดการกับการคุกคามจากกลุ่มฮามาส
โรแกน เคิร์ช รองอธิการบดีของวากเนอร์ สคูล ออฟ พับลิค เซอร์วิส มหาวิทยาลัยนิวยอร์ก กล่าวว่า ทีมงานด้านนโยบายต่างประเทศของโอบามาซึ่งหวังว่า จะสามารถฟื้นขบวนการสร้างสันติภาพในตะวันออกกลางนั้น กลับต้องมาเผชิญกับสถานการณ์ที่พลิกผัน
นายโอบามา ซึ่งจะเข้ารับตำแหน่งผู้นำสหรัฐในวันที่ 20 ม.ค.นั้น ยังคงเก็บเนื้อเก็บตัว โดยก่อนหน้านี้ เขาได้พูดคุยกับดร.คอนโดลิสซ่า ไรซ์ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐเกี่ยวกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นและติดตามสถานการณ์ แต่ยังไม่ได้วางแผนที่จะเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ดังกล่าว