เหตุการณ์สู้รบทางอากาศระหว่างอิสราเอลและกองกำลังฮามาสของปาเลสไตน์ จุดชนวนให้นานาประเทศทั่วโลกออกมาประท้วงที่อิสราเอลยังคงโจมตีฉนวนกาซา จนทำให้ชาวปาเลสไตน์เสียชีวิตไปแล้วกว่า 373 คน โดยชาวฝรั่งเศสออกมารวมตัวกันกว่า 7,000 คน เพื่อเดินขบวนประท้วงในกว่า 10 เมืองทั่วประเทศ ประณามอิสราเอลที่ทิ้งระเบิดโจมตีฉนวนกาซา
ส่วนที่กรุงลอนดอนของอังกฤษ มีประชาชนประมาณ 200-300 คน ประท้วงอย่างสันติหน้าสถานทูตอิสราเอล หลังการชุมนุมเมื่อ 2 วันที่แล้วได้บานปลายกลายเป็นเหตุรุนแรง เมื่อเกิดเหตุปะทะกันระหว่างตำรวจกับผู้ประท้วงที่ไม่เห็นด้วยกับการที่อิสราเอลใช้ปฏิบัติการทางอากาศโจมตีกาซา
นอกจากนี้ ยังเกิดการประท้วงต่อต้านอิสราเอลในอีกหลายประเทศ ทั้งที่ตูนิเซีย, เยเมน, แอลจีเรีย, ปานามา, บัลแกเรีย และอิหร่าน โดยที่อิหร่านนั้นประชาชนได้เข้ายึดสวนแห่งหนึ่งซึ่งเป็นพื้นที่ครอบครองของสถานทูตอังกฤษในกรุงเตหะราน เพื่อประท้วงที่อังกฤษมีจุดยืนเอนเอียงไปทางอิสราเอล ส่วนที่กรุงวอชิงตันของสหรัฐ มีประชาชน 200 คน ประท้วงหน้ากระทรวงต่างประเทศสหรัฐ เพื่อเรียกร้องให้สหรัฐยุติการสนับสนุนอิสราเอล
ขณะที่อิสราเอลไม่สนใจคำร้องขอจากนานาชาติ โดยส่งสัญญาณเตรียมใช้กองกำลังทางบกโจมตีฐานที่มั่นของกลุ่มฮามาสในฉนวนกาซ่าอีก หลังการโจมตีทางอากาศเมื่อ 3 วันที่ผ่านมาไม่สามารถยุติความขัดแย้งระหว่างทั้งสองประเทศได้ อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่ารัฐบาลอิสราเอลกำลังพิจารณาหยุดพักการสู้รบเป็นเวลา 48 ชั่วโมง เพื่อหยั่งเชิงว่ากองกำลังฮามาสจะยุติการยิงจรวดเข้ามาในพื้นที่ภาคใต้ของอิสราเอลหรือไม่