นายพุฒิพงษ์ ปุณณกันต์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจวันพรุ่งนี้(7 ม.ค.) เวลา 10.00 น. เรื่องหลักที่จะมีการเสนอที่ประชุมคือ กรอบงบประมาณกลางปี 52(งบเพิ่มเติม)จำนวน 1 แสนล้านบาท โดยในการประชุมหัวหน้าส่วนราชการเพื่อชี้แจงนโยบายรัฐบาลวันนี้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีจะมอบหมายให้ทุกกระทรวงกลับไปจัดทำร่างแผนการใช้จ่ายงบประมาณและแผนกระตุ้นเศรษฐกิจมาเสนอให้ที่ประชุมพิจารณา
ทั้งนี้ เชื่อว่าจะสามารถเสนอการจัดสรรงบประมาณกลางปีให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาได้ในวันที่ 13 ม.ค.นี้ และเสนอต่อที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรในวันที่ 21 ม.ค. หลังจากนั้นจะสามารถเบิกจ่ายได้เร็วภายใน 2-3 เดือน
ด้านนายบัณฑูร สุภัควณิช ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ กล่าวว่า มีความเป็นไปได้หากจะจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปี 53 โดยตั้งเป็นงบขาดดุลอีกไม่น้อยกว่า 3.5 แสนล้านบาท ตามที่นายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง ให้หลักการไว้ แต่ต้องเป็นไปตามกฎระเบียบของเงินคงคลัง
ขณะเดียวกัน 4 หน่วยงานหลัก ประกอบด้วย กระทรวงการคลัง ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) สำนักงบประมาณ(สงป.) และสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สศช.) จะเป็นหน่วยงานที่ทบทวนกรอบงบประมาณรายจ่ายปี 53 โดยจะเริ่มดำเนินการระหว่างเดือน ม.ค.-ก.พ.ให้มีความชัดเจนขึ้น
สำหรับหลักการในการตั้งงบประมาณขาดดุลจะต้องคำนึงถึงการขยายตัวทางเศรษฐกิจ(จีดีพี) เพื่อประมาณการรายได้ แต่ทั้งนี้ต้องขึ้นอยู่กับคณะกรรมการยกร่างกรอบงบประมาณรายจ่ายปี 53 ที่ รมว.คลัง ตั้งขึ้น
นายบัณฑูร กล่าวว่า ในส่วนของงบประมาณขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น(อปท.)ที่รัฐบาลเร่งให้มีการเบิกจ่ายนั้นยังมีงบประมาณตกค้างอยู่ราว 2-3 หมื่นล้านบาท โดยนายกรัฐมนตรีจะเข้าไปเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่อนท้องถิ่น(กกถ.) เพื่อเร่งรัดด้วยตัวเอง