คณะกรรมการการเลือกตั้งสหรัฐเปิดเผยตัวเลขการใช้จ่ายในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐปี 2551 ที่พุ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 4.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
โดยการใช้จ่ายสำหรับเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐครั้งล่าสุดปรับตัวสูงขึ้น 37% จากระดับ 3 พันล้านดอลลาร์ในการเลือกตั้งเมื่อ 4 ปีก่อน ซึ่งข้อมูลดังกล่าวยังไม่ได้รวมถึงการใช้จ่ายเงินหลายล้านดอลลาร์สหรัฐของสหภาพแรงงาน กลุ่มที่ปรึกษา และองค์กรการเมืองอิสระ
ด้านผู้เชี่ยวชาญได้กล่าวถึงเหตุผลของยอดเงินระดมทุนการเลือกตั้งประธานาธิบดีที่พุ่งสูงมากเป็นประวัติการณ์ว่าสะท้อนให้เห็นถึงความกระตือรืนร้นของชาวอเมริกันที่ต้องการออกมาเลือกประธานาธิบดีผิวสีคนแรกของสหรัฐ โดยดูได้จากจำนวนผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งจำนวน 130 ล้านคน ซึ่งสูงขึ้นจากระดับ 122 ล้านคนในการเลือกตั้งเมื่อปี 2547
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ในช่วงสิ้นเดือนพ.ย.ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีจากพรรคเดโมแครตและรีพับลิกันมียอดใช้จ่ายเงินรวมกันทั้งสิ้น 1.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยนายโอบามาปฏิเสธที่จะรับเงินจากผู้บริจาครายใหญ่และกลุ่มล็อบบี้ยิสต์ หรือผู้ที่เป็นคนกลางวิ่งเต้นหาผลประโยชน์แต่เน้นระดมทุนจากผู้บริจาคเงินรายย่อย ซึ่งเขาได้ใช้จ่ายเงินในการหาเสียงทั้งสิ้น 741 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สูงกว่าจำนวน 338 ล้านดอลลาร์สหรัฐที่ประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิ้ลยู บุชใช้หาเสียงเมื่อปี 2547
ขณะที่นายจอห์น แมคเคน จากพรรครีพับลิกันใช้เงินในศึกหยั่งเสียงขั้นต้นและการเลือกตั้งทั่วไปจำนวน 307 ล้านดอลลาร์สหรัฐ