โพลล์เผยชาวอเมริกันวิตกรัฐบาลผลาญภาษีประชาชนมากกว่าปัญหาว่างงาน

ผลสำรวจล่าสุดเผยว่า ชาวอเมริกันกังวลกับการที่รัฐบาลจะนำเงินภาษีของประชาชนไปใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพแค่ไหน มากกว่ากังวลว่ารัฐบาลจะสามารถแก้ปัญหาการว่างงานให้พวกเขาได้หรือไม่

โดยผู้ตอบแบบสอบถามกว่า 61% ต้องการให้รัฐบาลรับประกันว่าเงินภาษีทุกบาททุกสตางค์ถูกนำไปใช้ในโครงการต่างๆ อย่างชาญฉลาดและเหมาะสม ส่วนกลุ่มที่ต้องการให้รัฐบาลเร่งแก้ปัญหาว่างงานมีน้อยกว่ากลุ่มแรกเกือบ 2 เท่า

ผลสำรวจดังกล่าวจะได้รับการเปิดเผยอย่างเป็นทางการโดยกลุ่ม Building America’s Future โดยการนำของเอ็ด เรนเดลล์ ผู้ว่าการรัฐเพนซิลเวเนียจากพรรคเดโมแครต, อาร์โนลด์ ชวาเซเนกเกอร์ ผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนียจากพรรครีพับลีกัน และ ไมเคิล บลูมเบิร์ก นายกเทศมนตรีมหานครนิวยอร์ก ซึ่งเป็นผู้ก่อตั้งและผู้ถือหุ้นหลักของบริษัทแม่ของสำนักข่าวบลูมเบิร์ก

ประชาชนชาวอเมริกันให้ความสำคัญกับการใช้เงินของรัฐบาลมากขึ้น หลังสภาคองเกรสและคณะบริหารชุดใหม่ร่างนโยบายเศรษฐกิจที่อาจมีมูลค่าสูงถึง 7.75 แสนล้านดอลลาร์ เพิ่มเติมจาก 7 แสนล้านดอลลาร์ที่นำไปให้ความช่วยเหลือสถาบันการเงินที่ล้มละลายจากวิกฤตการเงินโลก

"ประชาชนต่างโกรธเคืองที่เงินภาษีของพวกเขาถูกนำไปให้บริษัทที่ล้มละลาย" นายเรนเดลล์ กล่าว "นี่เป็นตัวอย่างที่ชัดเจนของการแก้ปัญหาอย่างผิดวิธี และหวังว่าว่าที่ประธานาธิบดีบารัค โอบามา คงมีมาตรการที่ดีกว่านี้" สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงาน