นายไพจิต ศรีวรขาน ส.ส.นครพนม กลุ่มอีสานพัฒนา พรรค พท.กล่าวว่า การที่ ส.ส.พรรคบางส่วนเดินทางไปให้กำลังใจการตั้งพรรคภูมิใจไทยนั้นเป็นสิทธิทางการเมืองของ ส.ส.ที่สามารถทำได้ ซึ่งเราก็ให้ความเคารพเพราะถือว่าเป็นการจัดทางเลือกใหม่ให้กับ ส.ส. หากเห็นว่าการอยู่กับพรรค พท.ไม่มั่นคงก็สามารถย้ายไปอยู่กับพรรคภูมิใจไทยได้ แต่เชื่อว่า ส.ส.กลุ่มเนวินบางส่วนในพรรคคงจะย้ายพรรคในช่วงการเลือกตั้งใหญ่ หลังจากพรรคประชาธิปัตย์และกลุ่มเนวินเห็นว่ามีคะแนนนิยมก็อาจยุบสภา
อย่างไรก็ตามเชื่อว่า การเมืองภาคประชาชนเข้มแข็งในการควบคุม ส.ส.โดยเฉพาะในภาคอีสาน และส่วนตัวก็ไม่คิดย้ายพรรคเพราะทำงานการเมืองมาไม่เคยเอาตัวเองไปอยู่ในตลาดนัด ส.ส.อย่างนี้
"เรื่องนี้เราไม่ว่ากัน ทุกอย่างยังมีเวลา เมื่อฝ่ายเพื่อนเนวินเป็นรัฐบาลเพื่อแก้ปัญหาชาติ ถ้าประสบความสำเร็จดีกว่าสมัยทักษิณ เลือกตั้งครั้งหน้าเขาก็ได้เสียงข้างมาก ขึ้นอยู่กับผลงานเขา ส.ส.คนไหนใจร้อนก็อาจจะตัดสินใจ คนมีประสบการณ์ก็จะ wait and see แต่ในภาคอีสานกระแสทักษิณยังแรงเพราะเขายังต้องการให้กลับมาบริหารประเทศ ผลการเลือกตั้งซ่อมที่พรรคเพื่อไทยได้มาน้อยเพราะฝั่งตรงข้ามใช้อำนาจ บารมี มีกลุ่มทุน ส่วนเราติดปัญหาเรื่องผู้สมัครไม่พร้อม และยังถูกยุบพรรคหลายครั้ง" นายไพจิต กล่าว
นายไพจิต กล่าวว่า ไม่เห็นด้วยกับข้อเสนอของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการ(นปช.) ที่เรียกร้องให้รัฐบาลยุบสภา เพราะวันนี้เพิ่งตั้งรัฐบาลและกำลังประคับประคองเพื่อสร้างผลงานก็ควรใช้กรอบรัฐธรรมนูญในการขับเคลื่อน หากการบริหารประเทศของรัฐบาลมีความไม่โปร่งใสก็ควรยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ และหากจะบริหารประเทศต่อไปได้อีกก็ไม่เป็นไร แต่เชื่อว่า พรรคประชาธิปัตย์จะมีมารยาททางการเมืองและตัดสินใจยุบสภาแน่ หากคิดว่ารัฐบาลไปไม่ไหว
"แนวทางเสื้อแดง เขาต้องการระบอบประชาธิปไตย เราเข้าใจ แต่เราเป็นนักการเมืองเมื่อเขารวบรวมได้เสียงข้างมาก เราก็ดูว่า เขาจะประคับประคองประเทศ และทำประโยชน์ได้มากน้อยแค่ไหน" นายไพจิต กล่าว
ด้านนายไชยา พรหมา ส.ส.หนองบัวลำภู พรรค พท.กล่าวว่า การที่ ส.ส.พรรค พท.ไปให้กำลังใจไม่ใช่เรื่องแปลกเพราะ ส.ส.เหล่านี้เคยอยู่กลุ่มเนวินมาก่อนจึงมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน ที่ผ่านมาต่างคนต่างตกระกำลำบากจากการที่พรรคถูกยุบ เหมือนแพแตกว่ายน้ำกระซ่านกระเซ็น ใครขึ้นฝั่ง เกาะต้นไม้ เอาชีวิตอยู่รอดได้ก็ทำไปก่อน ฉะนั้นการที่พรรคภูมิใจไทยตั้งตัวได้เราก็แสดงความยินดีเป็นเรื่องปกติ แต่หากมองเป็นนัยยะการเมือง วันนี้ยังไม่ใช่เวลาที่จะวิเคราะห์ว่าจะเกิดการเปลี่ยนแปลงในเร็ววัน
นายไชยา กล่าวว่า กลุ่มเนวินจะโตหรือไม่ขึ้นอยู่กับการทำงานของรัฐบาล และการทำหน้าที่ฝ่ายค้านของพรรค พท. ถ้ากระแสพรรค พท.ยังดีอยู่ในภาคอีสานก็ไม่น่ามีปัญหาอะไร และถ้ารัฐบาลทำงานไม่สำเร็จก็เชื่อว่าคงไม่มีใครออกจากพรรค พท. สิ่งสำคัญพรรคต้องปรับกระบวนยุทธในการทำหน้าที่ตรวจสอบให้เป็นระบบ เพราะเชื่อว่าหากพรรคเล่นบทฝ่ายค้านชัดเจน ตรวจสอบรัฐบาลให้มาก โอกาสที่รัฐบาลจะเพลี้ยงพล้ำ รวมถึงรัฐบาลแพ้ภัยตนเอง เนื่องจากปัญหาความไม่เป็นเอกภาพ
"วันนี้เราจะนั่งมองรัฐบาลตาปริบๆ คงไม่ได้ แม้ว่าพรรคจะขาดบุคคลากรค่อนข้างมาก แต่ก็ต้องพยายามสร้างคน สร้างพรรค ซึ่งการประชุมพรรคล่าสุดที่วางระบบการทำงานใหม่ เป็นทิศทางที่ดี" นายไชยา กล่าว
"วันนี้ผู้ใหญ่ในพรรครู้สถานการณ์ดี ก็คงปรับยุทธศาสตร์ด้วยการต้องทบทวนตัวเอง ต้องบริหารพรรคโดยให้สมาชิกมีส่วนร่วมให้มากที่สุด เพราะที่ผ่านมาตัดสินใจการเมืองผิดพลาดมาตลอด ถ้ายังให้คนที่อยู่ในปัจจุบันมีส่วนร่วม หรือให้ฝ่ายสนับสนุนอดีตนายกฯ หรือกลุ่ม 111 เป็นที่ปรึกษา โดยไม่มีการสั่งการว่าต้องทำอย่างนั้นอย่างนี้ก็จะไม่มีปัญหา เราต้องให้คน 111 และอดีตแกนนำ 39 คน เป็นมันสมองให้คำแนะนำได้ แต่ไม่ใช่ให้มาสั่งการเหมือนอดีต" นายไชยา กล่าว
นายไชยา กล่าวว่า พรรคต้องสร้างบทบาทฝ่ายค้านให้ชัดเจนตรวจสอบรัฐบาลและต้องขยายฐานสมาชิกพรรค ให้ ส.ส.ทำกิจกรรมในพื้นที่ จัดอบรมความรู้ วิเคราะห์การเมืองนโยบายรัฐบาล ถ้าทำอย่างนี้ก็คิดว่า จะสามารถลบล้างหลายสิ่งหลายอย่างได้ แต่ถ้าปล่อยให้รัฐบาลทำงาน โดยเราไม่ขับเคลื่อนอย่างไรก็น่าห่วง ทั้งนี้ผลการเลือกตั้งซ่อมไม่สามารถชี้ได้ว่า กระแสทักษิณอ่อนลง เพราะพรรคมีอุปสรรคหลายอย่าง เช่น ไม่สามารถหาตัวผู้สมัครที่เป็นที่นิยมให้ครบทุกเขตจากข้อจำกัดทางกฎหมาย ขณะที่บางจังหวัดก็มีการขับเคี่ยวกันระหว่างตัวผู้สมัคร ซึ่งมีทั้งกระแสความนิยมบวกกับตัวบุคคลด้วย
นายไชยา กล่าวว่า การต่อสู้ทางการเมืองต้องเป็นไปตามกติกา เราพร้อมเป็นฝ่ายค้านที่มีคุณภาพ และไม่เห็นด้วยกับการเคลื่อนไหวนอกวิถีทางประชาธิปไตย เช่น การจัดม็อบนอกสภา เพราะจะทำให้บรรยากาศเลวร้ายขึ้น การยุบสภาโดยยังไม่มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญให้ดีขึ้นก็ไม่มีประโยชน์ เมื่อยุบสภาแล้วเราก็ต้องมาต่อสู้ในสนามเลือกตั้งกันอีก และขอถามกลับว่าสมัยพรรคประชาธิปัตย์เป็นฝ่ายค้านก็ได้เรียกร้องให้รัฐบาลสมชายยุบสภา แต่ทำไมไม่ยุบ มาวันนี้จะเรียกร้องให้เขายุบสภาโดยยังไม่แก้ไขกติกาจึงไม่มีเหตุผล และไม่ช่วยให้การแก้ไขปัญหาของประเทศชาติเป็นไปด้วยความยั่งยืน
"อยากจะให้โอกาสรัฐบาลทำงานก่อน ให้ประชาชนมีโอกาสเปรียบเทียบว่าสิ่งที่เราทำในอดีตสร้างผลงาน 8 ปีและพรรคประชาธิปัตย์มีจุดยืนตรงกันข้าม เขาจะแก้ปัญหาได้ดีกับเราไหม แต่เชื่อว่าเขาจะไม่มีฝีมือ ไม่ใช่นักบริหารที่แท้จริง เพราะหลายเรื่องพรรคเคยแก้ไขมาแล้ว เช่น นโยบายประชานิยมเขาก็เดินตามเรา ทั้งที่เขาเคยวิจารณ์เรา เท่ากับว่า พรรคประชาธิปัตย์ยอมรับในนโยบายเราในอดีตเป็นทิศทางที่ถูกต้อง แค่มาปรับเปลี่ยนคำพูดนโยบายเท่านั้นเอง จึงเชื่อว่า เขาไม่สามารถประสบความสำเร็จ รัฐบาลอยู่ยาวไม่ได้ เพราะปัญหาความไม่เป็นเอกภาพ โอกาสที่จะกลับมาอีกก็ยาก เวลาจะฆ่าตัวเขาเอง ฉะนั้นการเรียกร้องให้ยุบสภา โดยที่ยังไม่พิสูจน์ฝีมือเขาจึงไม่ถูกต้อง" นายไชยา กล่าว
ขณะที่นายวิชัย สามิตร ส.ส.หนองบัวลำภู พรรคเพื่อไทย(พท.) กล่าวว่า การเดินทางไปร่วมแสดงความยินดีกับการเปิดตัวพรรคภูมิใจไทยในวันนี้ ไม่มีวาระซ่อนเร้นว่าจะย้ายไปอยู่กับ ส.ส.กลุ่มเพื่อนเนวิน เป็นเพียงการไปร่วมแสดงความยินดีกับนายเก่าที่เคยรักใคร่พึ่งพาอาศัยกันมาเท่านั้น เพราะตนเองและเพื่อนๆ ไม่สามารถย้ายพรรคได้ในตอนนี้ เพราะได้ย้ายเข้าสังกัดพรรค พท.แล้ว และหากการไปร่วมงานครั้งนี้จะถูกตำหนิจากพรรค พท.ก็เป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้
"ผมไปในฐานะส่วนตัวที่เคยเป็นคนที่ช่วยเหลือกันมา จะมาหาว่าเราแปรภักดิ์คงไม่ถูกต้อง" นายวิชัย กล่าว
สำหรับแนวโน้มการย้ายพรรคหากมีการเลือกตั้งใหม่นั้น นายวิชัย กล่าวว่า ทางกลุ่มประเมินกันว่าคงไม่มีการเลือกตั้งใหม่ในเร็วๆ นี้ เพราะน่าจะเป็นเกมยาว เนื่องจากตอนนี้ต้องยอมรับว่าองคาพยพทางการเมืองทุกอย่างเป็นของพรรคประชาธิปัตย์และรัฐบาลอาจจะอยู่ครบเทอมด้วยซ้ำ ซึ่งทางกลุ่มกำลังดูว่าพรรค พท.จะสามารถฝ่ากระแสลมที่ถาโถมเข้ามาตอนนี้ได้หรือไม่
"เราคิดกันว่าถ้าพรรคเพื่อไทยอยู่ได้เราก็ไม่ไป แต่ถ้าพรรคอยู่ไม่ได้หรือรัฐบาลอยู่ครบเทอมเราก็จะไป เพราะเชื่อว่ากระแสการเมืองจะเปลี่ยน ผมเชื่อว่าถ้าประชาธิปัตย์โหมประชานิยมใส่ภาคอีสานมากๆ กระแสการเมืองก็จะเปลี่ยนจากเพื่อไทยมาประชาธิปัตย์ได้ ถ้าเป็นแบบนั้นเราก็จะกลับไปทำงานกับนายแน่นอน ซึ่งคนที่เห็นตรงกันแบบนี้มีถึง 30-40 คน เป็น ส.ส.อีสานเกือบทุกจังหวัดและเรากำลังมองว่าพรรคเพื่อไทยอาจจะอยู่ยากเพราะตอนนี้มีปัญหาเรื่องเอกภาพและการบริหารจัดการมาก ไม่รู้ว่าจะอยู่ได้หรือไม่" นายวิชัย กล่าว