ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล(วิปรัฐบาล)เผยรัฐบาลจะเสนอกรอบความร่วมมือและข้อตกลงต่างๆ ที่ผู้นำอาเซียนจะลงนามร่วมกันให้ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาในวันที่ 26-27 ม.ค.นี้ หลังจากนั้นวันที่ 28-29 ม.ค.จะเป็นการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2552 เพิ่มเติม
"เชื่อว่าใน 2 วาระสำคัญ กลุ่มเสื้อแดงคงไม่มาปิดล้อม เนื่องจากเป็นการทำหน้าที่ของฝ่ายนิติบัญญัติที่เกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ประชาชนและหน้าตาของประเทศ" นายชินวรณ์ บุญยเกียรติ ประธานวิปรัฐบาล กล่าว
ส่วนการจัดสรรสัดส่วนคณะกรรมาธิการสามัญประจำสภาผู้แทนราษฎรใหม่ เนื่องจากมีการเปลี่ยนแปลงจำนวน ส.ส.ในแต่ละพรรคหลังจากยุบพรรค และการเลือกตั้งซ่อม คงต้องรอหลังวันที่ 2 ก.พ.52 ให้ครบกำหนด 60 วัน ที่ ส.ส.ต้องสังกัดพรรค ซึ่งนายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎร จะแจ้งยอด ส.ส.ของแต่ละพรรคให้ทราบอีกครั้ง
นอกจากนี้ วิปรัฐบาลมีมติให้ ครม.หยิบยกร่าง พ.ร.บ.ผู้สูงอายุ กลับมาพิจารณาภายใน 60 วัน เพื่อนำกลับเข้าที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรอีกครั้ง
ประธานวิปรัฐฐาล ยังกล่าวถึงมาตรการดูแลไม่ให้เกิดปัญหาสภาล่มว่า วิปรัฐบาลมียุทธศาสตร์ที่ชัดเจนเพื่อควบคุมไม่ให้เกิดปัญหาดังกล่าว โดยได้กำหนดให้มีการควบคุมเสียงรัฐบาลกันเองในสัดส่วน 1 ต่อ 5 แต่ทั้งนี้เชื่อว่า ส.ส.จะรับผิดชอบต่อองค์ประชุม ยิ่งในขณะนี้เป็นเรื่องที่สำคัญมาก
"เราต้องการชี้ให้ประชาชนเห็นว่าสภาเป็นทางออกของวิกฤติจึงไม่ควรทำให้องค์ประชุมมีปัญหา" นายชินวรณ์ กล่าว
สำหรับจำนวน ส.ส.ในสภาผู้แทนราษฎรขณะนี้มีทั้งหมด 455 คน เป็นฝ่ายรัฐบาล 255 คน เชื่อว่าจะไม่เป็นปัญหาในการลงมติ โดยเฉพาะการยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรี เนื่องจากตามรัฐธรรมนูญมาตรา 158 และมาตรา 159 กำหนดว่าต้องมีเสียงไม่ไว้วางใจเกินกึ่งหนึ่งถึงจะทำให้รัฐมนตรีพ้นจากตำแหน่ง
"ที่ผ่านมารัฐบาลไม่เคยแพ้เสียงฝ่ายค้าน และเป็นไปไม่ได้ที่ฝ่ายรัฐบาลจะกลับไปสนับสนุนฝ่ายค้านในการลงมติไม่ไว้วางใจ" นายชินวรณ์ กล่าว