ว่าที่ประธานาธิบดี บารัค โอบามา เตรียมสานต่อปฏิบัติการจับกุมตัวโอซามา บินลาเดน ผู้นำกลุ่มก่อการร้ายอัลกออีดะห์ ต่อจากประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู บุช ซึ่งกำลังจะหมดวาระในวันพรุ่งนี้
ตลอดระยะเวลา 7 ปีแห่งการไล่ล่า บินลาเดนสามารถหนีการจับกุมมาได้โดยตลอด และเมื่อวันที่ 13 ม.ค.ที่ผ่านมา เมื่อบุชถูกแลร์รี คิง จากสถานีโทรทัศน์ซีเอ็นเอ็นถามว่า สหรัฐใกล้จะจับผู้ก่อการร้ายรายนี้ได้หรือยัง เขาตอบได้เพียงว่า "ผมไม่ได้จะปิดบังอะไรทั้งนั้น แต่ผมไม่ทราบจริงๆ"
อย่างไรก็ตาม รองประธานธิบดีดิ๊ค เชนีย์ กล่าวว่า การป้องกันไม่ให้เกิดเหตุซ้ำรอยเมื่อวันที่ 11 ก.ย.2544 ถือเป็นสิ่งที่สำคัญกว่าการจับตัวคนเพียงคนเดียว
หน้าที่ในการจัดการกับผู้ก่อการร้ายรายนี้กำลังถูกส่งต่อไปยังโอบามา โดยเมื่อสัปดาห์ที่แล้วบินลาเดนเพิ่งโพสต์ข้อความเสียงในเว็บไซต์อิสลามว่า "ประธานาธิบดีคนใหม่ต้องรับมือกับสงครามกองโจรของศัตรูซึ่งมีความอดทนและอึดมาก"
ด้านโอบามาแสดงเจตจำนงว่าต้องการใช้กองกำลังฝ่ายเดียวในการโจมตีบินลาเดน แม้ว่านั่นจะหมายความว่าสหรัฐต้องโจมตีปากีสถานโดยไม่ได้รับความยินยอมจากรัฐบาลปากีสถานก็ตาม
"บินลาเดนและกลุ่มอัลกออีดะห์เป็นภัยคุกคามอันดับ 1 ของสหรัฐ" โอบามา กล่าวกับผู้สื่อข่าวเมื่อวันที่ 14 ม.ค.ที่ผ่านมา "เราจะทำทุกอย่างเพื่อขัดขวางไม่ให้พวกนั้นหาที่กบดานและโจมตีสหรัฐได้" สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงาน