นายกรัฐมนตรีวลาดิมีร์ ปูติน ของรัสเซีย กล่าวพาดพิงอดีตประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู บุช ของสหรัฐ กับกรณีพิพาทเรื่องก๊าซระหว่างรัสเซียกับยูเครนจนทำให้หลายประเทศในยุโรปต้องขาดแคลนก๊าซตั้งแต่ช่วงต้นปี โดยชี้ว่า อดีตผู้นำของสหรัฐมีส่วนทำให้เกิดความวุ่นวายทางการเมืองในภูมิภาค อย่างไรก็ตาม เขายังมีความหวังว่าความสัมพันธ์ระหว่างรัสเซียกับสหรัฐในยุคบารัค โอบามาจะพัฒนาไปในทางที่ดีขึ้น
โดยที่ผ่านมาคณะทำงานของบุชสนับสนุนให้ยูเครนและจอร์เจีย ซึ่งอยู่ฝ่ายตรงข้ามกับรัสเซีย เข้าร่วมเป็นสมาชิกนาโต้ อีกทั้งยังมีแผนการก่อสร้างระบบป้องกันขีปนาวุธในโปแลนด์และสาธารณรัฐเชค นอกจากนี้ สหรัฐภายใต้การนำของบุชยังได้ลงนามเป็นพันธมิตรเชิงกลยุทธ์กับยูเครนอีกด้วย
ขณะเดียวกันปูตินยังอ้างถึงเหตุการณ์ "ปฏิวัติสีส้ม" เมื่อ 4 ปีก่อนที่ทำให้ยูเครนปลดแอกจากโซเวียตและเดินหน้าไปสู่เส้นทางแห่งประชาธิปไตย ซึ่งบุชมีท่าทีเห็นดีเห็นงามด้วยโดยกล่าวว่า การปฏิวัติครั้งนี้เป็นตัวอย่างอันทรงพลังที่แสดงให้เห็นถึงความเคลื่อนไหวเพื่อความเป็นอิสรภาพของประชาชนทั่วโลก
ปูติน นายกฯรัสเซียวัย 56 ปีกล่าวให้สัมภาษณ์กับทางสถานีโทรทัศน์บลูมเบิร์กว่า "สิ่งที่เกิดขึ้นในช่วงไม่กี่ปีมานี้คือหลักฐานสำคัญที่คณะรัฐบาลสหรัฐชุดก่อนและสหภาพยุโรปได้ทำไว้ร่วมกัน"
ทั้งนี้ รัสเซีย ซึ่งเป็นผู้จัดหาก๊าซให้กับกลุ่มประเทศยุโรปและกลุ่มสมาชิกอียูผ่านทางยูเครนราว 1 ใน 5 กล่าวทิ้งท้ายว่า ศึกการเมืองภายในของยูเครนเป็นสาเหตุที่ทำให้รัสเซียหมดโอกาสบรรลุข้อตกลงขั้นสุดท้ายในประเด็นการส่งก๊าซผ่านทางประเทศดังกล่าว