นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ยอมรับว่า ต้องการเห็นสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาร่างความตกลงในกรอบอาเซียนแล้วเสร็จได้ภายในวันนี้ แต่หากมีความจำเป็นจะเลื่อนออกไปหรือไม่ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของนายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎร โดยเชื่อว่าฝ่ายค้านจะให้ความร่วมมือเพื่อให้การพิจารณาความตกลงในกรอบอาเซียนสามารถผ่านไปได้
อย่างไรก็ตาม รัฐบาลไม่ขัดข้องที่จะมีการตั้งคณะกรรมาธิการเพื่อศึกษาข้อตกลงต่างๆ ในกรอบอาเซียน แต่จำเป็นต้องพิจารณาขั้นตอนเพื่อไม่ทำให้เกิดความล่าช้า ขณะเดียวกันรัฐบาลไม่ได้มีแนวคิดที่จะปิดกั้นไม่ให้ฝ่ายมีส่วนร่วม พร้อมมองว่าการเสนอตั้งคณะกรรมาธิการเพื่อพิจารณาในประเด็นดังกล่าวไม่น่าใช่การถ่วงเวลาของฝ่ายค้าน
"ก็อยู่ที่ท่านประธานฯ(สภาผู้แทนราษฎร) แต่อยากให้เสร็จวันนี้...หลักสำคัญ คืออยากจะให้มีการลงนามในข้อตกลงต่างๆ ให้ได้ ส่วนสภาฯ จะเข้ามามีส่วนร่วมในการติดตามการทำงานก็ไม่ขัดข้องที่จะให้ตั้งกรรมาธิการ" นายกรัฐมนตรี ระบุ
ส่วนกรณีพรรคเพื่อไทยเตรียมยื่นเรื่องให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ตรวจสอบพฤติกรรมของนายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ รมช.มหาดไทย ในกรณีแจกเงินงบประมาณของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.)ให้ผู้ยากไร้ที่ขอรับการสงเคราะห์ใน อ.โชคชัย จ.นครราชสีมา พร้อมแนบนามบัตรเหมือนเจตนาจะบอกว่าเป็นคนนำงบประมาณส่วนนี้มาให้นั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวเพียงว่า รัฐมนตรีทุกคนต้องพร้อมที่จะถูกตรวจสอบไปตามกระบวนการและข้อเท็จจริงอยู่แล้ว
ทั้งนี้ไม่รู้สึกกังวลที่รัฐมนตรีหลายคนถูกฝายค้านมุ่งโจมตีในเรื่องคุณสมบัติส่วนตัว ซึ่งโดยส่วนตัวได้ติดตามอยู่ทุกเรื่อง แต่งานทุกอย่างจะต้องเดินหน้าต่อไป
ส่วนกรณีปัญหาผู้อพยพชาวโรฮิงญานั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลพร้อมที่จะหารือร่วมกับสำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (UNHCR) มาคุยกันในกรอบ 4 ฝ่าย ร่วมกับไทย, อินเดีย, และบังคลาเทศ เพื่อร่วมกันแก้ไขปัญหาต้นทางของเรื่องที่เกิดขึ้น และเชื่อว่าการที่ผู้บัญชาการทหารสูงสุดเดินทางไปพม่าจะมีส่วนช่วยในการพูดคุยและเจรจาแนวทางแก้ไขปัญหาด้วย