เว็บไซต์กระทรวงการคลังสหรัฐระบุว่า ทิโมธี ไกธ์เนอร์ รมว.คลังสหรัฐ ยินดีรับเงินเดือนเพียง 50% หรือเพียง 191,300 ดอลลาร์/ปีในฐานะรมว.คลังคนที่ 75 ของสหรัฐ ซึ่งเป็นตัวเลขที่ต่ำกว่าที่เคยได้รับเมื่อครั้งดำรงตำแหน่งผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขานิวยอร์ก ที่ได้รับ 411,200 ดอลลาร์/ปี
ไกธ์เนอร์ได้ชื่อว่าเป็นรมว.คลังที่ร่ำรวยน้อยที่สุดในบรรดารมว.คลังของสหรัฐ โดยเขามีทรัพย์สินครอบครองอยู่เพียง 770,000 ดอลลาร์ ถึง 1.8 ล้านดอลลาร์เท่านั้น โดยสินทรัพย์ที่มีมูลค่ามากที่สุดของไกธ์เนอร์คืออสังหาริมทรัพย์ที่เมืองเคพโค๊ด รัฐเมสซาชูเสทส์ ที่มีมูลค่าราว 250,001-500,000 ดอลลาร์
ขณะที่เฮนรี พอลสัน อดีตรมว.คลังสหรัฐ เคยทำรายได้สูงกว่า 500 ล้านดอลลาร์เมื่อครั้งที่ทำงานเป็นซีอีโอของโกลด์แมน แซคส์ โดยมีทรัพย์สินสะสมกว่า 75 ล้านดอลลาร์ก่อนที่จะเข้ารับตำแหน่งรมว.คลัง
เฟดสาขานิวยอร์กประกาศในวันนี้ว่า วิลเลียม ดั๊ดลีย์ หัวหน้าฝ่ายการตลาดของเฟดจะเข้ารับตำแหน่งผู้ว่าการเฟดสาขานิวยอร์กแทนไกธ์เนอร์ โดยเมื่อวานนี้วุฒิสภาสหรัฐมีมติด้วยคะแนนเสียง 60 ต่อ 34 เสียง รับรองไกธ์เนอร์ วัย 47 ปี ให้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีคลังสหรัฐ โดยวุฒิสภาให้น้ำหนักกับความสามารถและประสบการณ์ในแวดวงการเงินและการคลังของไกธ์เนอร์ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อการแก้ไขวิกฤตการณ์การเงิน มากกว่าความผิดพลาดที่ไกธ์เนอร์หลบเลี่ยงภาษีในช่วงที่เขาทำงานให้กับกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ)
หลังพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งเสร็จสิ้น ไกธ์เนอร์ให้คำมั่นสัญญาว่าจะใช้มาตรการกอบกู้เศรษฐกิจให้ฟื้นตัวขึ้นโดยเร็ว หลังจากเศรษฐกิจเข้าสู่ภาวะถดถอยมาเป็นเวลานานกว่า 1 ปี โดยระบุว่าวาระเร่งด่วนของสหรัฐคือการฟื้นฟูเศรษฐกิจให้หลุดพ้นจากภาวะถดถอยที่ยืดเยื้อมานานกว่า 1 ปี และเพื่อสร้างความเชื่อมั่นว่าสหรัฐอเมริกายังคงเป็นผู้นำทางเศรษฐกิจของโลก
ไกธ์เนอร์เคยเป็นเจ้าหน้าที่คลังภายใต้การบริหารงานของนายโรเบิร์ต รูบิน และ นายลอว์เรนซ์ ซัมเมอร์ส อีกทั้งยังเป็นบุคคลที่มีบทบาทอย่างมากในการช่วยเหลือนาย เฮนรี พอลสัน อดีตรมว.คลังสหรัฐและทีมงาน ในการแก้ไขวิกฤตการณ์ในสถาบันการเงินของสหรัฐ รวมถึงแบร์ สเติร์นส, เลห์แมน บราเธอร์ส และเอไอจี นอกจากนี้ ไกธ์เนอร์ยังได้รับการยอมรับในวงกว้างทั้งในตลาดเงินและตลาดทุนของสหรัฐ สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงาน