นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวโจมตีการทำหน้าที่ขององค์กรอิสระอย่างคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. และคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. ว่า ขณะนี้กำลังทำให้ประชาชนเกิดความกังขาในเรื่องความเป็นธรรม โดยตั้งข้อสังเกตว่า กกต.และ ป.ป.ช.จะมี 2 มาตรฐานในการดำเนินคดีกับบุคคลที่เกี่ยวข้องกับรัฐบาลและฝ่ายค้าน โดยที่เห็นชัดเจนคือกรณีของ นายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ ดำเนินการแจกจ่ายเงินซื้อเสียงการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 23 ธันวาคม 2550 ที่ นายมีชัย กิตติพัฒน์ ผู้สมัครได้ยื่นคำร้องให้ กกต.ดำเนินคดีแต่ปรากฏว่าเรื่องได้เงียบหายไป ซึ่งในวันพุธที่ 4 มีนาคมนี้ นายมีชัย จะเดินทางไปร้องทุกข์การปฏิบัติหน้าที่ของ กกต.กับทุกกระบวนการที่สามารถเอาผิดได้ และขอให้สังคมให้จับตาดูคดีความของ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ว่า กกต.จะกล้าเอาผิดจริงหรือไม่
ขณะเดียวกันพรรคเพื่อไทยยังได้แถลงเปิดตัวโครงการเพื่อไทยพบประชาชน 187 ศูนย์ทั่วประเทศเพื่อเปิดโอกาสให้สมาชิกและ ส.ส.ของพรรคได้ลงพื้นที่พบปะรับฟังความเดือดร้อนของประชาชนเพื่อนำมาเป็นข้อมูลในการจัดทำนโยบายของพรรคและเพื่อตรวจสอบการแก้ไขปัญหาของรัฐบาลว่าเป็นไปตามที่แถลงนโยบายไว้หรือไม่ แต่หากไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้จริงก็จะนำไปสู่การยื่นญัตติไม่ไว้วางใจต่อไป