นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ขอให้ผู้ที่เตรียมเสนอร่าง พ.ร.บ.เพื่อความปรองดองแห่งชาติ ระมัดระวังการนำเสนอร่างกฎหมายดังกล่าวท่ามกลางความแคลงใจจากสังคมว่าอาจเป็นผู้มีส่วนได้ส่วนเสียกับกฎหมายนี้ ทั้งนี้เพราะไม่ต้องการให้เกิดการขัดแย้งทางความคิดและเกิดเป็นปัญหาวุ่นวายทางการเมืองบานปลายดังเช่นในปีที่ผ่านมา
โดยเสนอแนะให้แนวคิดดังกล่าวเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในกระบวนการปฏิรูปทางการเมือง และมีองค์กรกลางที่ได้รับความน่าเชื่อถือจากทุกฝ่ายทำหน้าที่ด้านวิชาการเป็นแกนกลางรวบรวมความคิดเห็นจากทุกภาคส่วน และนำเสนอต่อรัฐบาลเพื่อเป็นแนวทางดำเนินการต่อไป ซึ่งเชื่อว่าจะเป็นทางออกที่ดีกว่าการให้ผู้ที่มีส่วนได้ส่วนเสียจากร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวเป็นผู้เสนอกฎหมายนี้เอง และน่าจะก่อให้เกิดการปรองดองและสมานฉันท์ได้อย่างแท้จริงกว่า
"ผู้ที่มีส่วนได้ส่วนเสียอย่าทำเอง ถ้าเห็นว่ามีเหตุผลที่ดีรองรับก็ให้ไปเข้ากระบวนการปฏิรูปการเมืองที่ฝ่ายวิชาการเป็นแกน เพราะบางทีผู้เสนออาจไม่ได้มีเจตนา แต่ถ้าเสนอเข้าไปแล้วคนเห็นว่ามีส่วนได้เสียจะเกิดแรงต่อต้าน" นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการเชื่อมั่นประเทศไทย กับนายกฯ อภิสิทธิ์
นายกรัฐมนตรี มองว่า ภารกิจที่สำคัญของประเทศตอนนี้คือ การแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ และการเร่งให้ความช่วยเหลือประชาชน ส่วนประเด็นการเมืองหรือปัญหาของนักการเมืองต้องเก็บไว้ทีหลัง ทั้งนี้ยืนยันว่าไม่ได้ปิดกั้นหรือปฏิเสธการที่ฝ่ายค้านจะเสนอร่าง พ.ร.บ.เพื่อความปรองดองแห่งชาติ เพียงแต่ขอให้เข้ามาอยู่ในกระบวนการปฏิรูปทางการเมือง เพื่อให้ประชาชนมองว่าไม่ใช่เรื่องของนักการเมืองทำเพื่อนักการเมืองด้วยกันเอง