ผลการำสรวจความคิดเห็นประชาชนที่มีต่อนายทาโร่ อาโสะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ซึ่งจัดทำขึ้นโดยนิปปอน เทเลวิชั่น ระบุว่า นายอาโสะเป็นนายกฯที่ได้รับการสนับสนุนไม่ถึง 1 เสียงจากจำนวนผู้ตอบรับการสำรวจ 10 คน นับเป็นผู้นำประเทศคนที่ 2 แล้วที่มีคะแนนนิยมต่ำสุด เนื่องจากมีเสียงวิจารณ์มากขึ้นเกี่ยวกับนโยบายด้านต่างๆของรัฐบาลที่อาจจะทำให้เศรษฐกิจของประเทศถดถอยลงมากกว่าเดิม
คะแนนสนับสนุนนายอาโสะร่วงลงมาอยู่ที่ 9.7% จากระดับ 17.4% ซึ่งถือเป็นตัวเลขที่ย่ำแย่ที่สุดนับตั้งแต่ที่โยชิโอะ โมริ ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเมื่อปี 2544 ส่วนคะแนนคัดค้านเพิ่มขึ้น 6.9% จากระดับเดือนก่อนหน้านี้ มาอยู่ที่ 76.2%
รัฐบาลญี่ปุ่นได้รายงานตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ในวันนี้ โดย GDP ไตรมาส 4 ร่วง 12.7% ซึ่งถือเป็นสถิติที่ร่วงลงมากที่สุดนับตั้งแต่ปี 2517 โดยภาวะเศรษฐกิจถดถอยของประเทศที่คาดว่า จะเลวร้ายที่สุดนับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2 นั้น ย่ำแย่ลงเนื่องจากการส่งออกร่วงลงเป็นประวัติการณ์ถึง 13.9% จากระดับไตรมาส 3 เนื่องจากความต้องการรถและโทรทัศน์ทั่วโลกที่หดตัวลง
ยูทากะ ฮาราดะ หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของสถาบันวิจัยไดวา กล่าวว่า ยอดการส่งออกที่ร่วงลงนี้อาจจะไม่ใช่ความผิดพลาดของอาโสะ แต่ความวิตกกังวลเรื่องอนาคตทางการเมืองของประเทศที่ยังมืดมนทำให้ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคดิ่งลงและอาจจะสร้างความเสียหายให้กับเศรษฐกิจของประเทศได้ การที่อาโสะขาดความเป็นผู้นำทำให้กลุ่มผู้ที่เคยสนับสนุนของขาหดหายลงไปเรื่อยๆ
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว นายจุนอิชิโร่ โคอิซูมิ อดีตนายกฯญี่ปุ่นได้ออกมาโจมตีนายอาโสะถึงการกระทำที่ผิดพลาดของเขาในการออกแถลงการณ์คัดค้านการแยกธุรกิจไปรษณีย์ของญี่ปุ่น ซึ่งเป็นนโยบายหลักในสมัยนายกฯโคอิซูมิว่า อาจจะส่งผลกระทบต่อโอกาสในการคว้าชัยเลือกตั้งปีนี้ของพรรคเสรีประชาธิปไตย
โพลล์ของนิปปอน ทีวี ชี้ผู้ตอบแบบสอบถาม 82.3% มองว่า การแสดงความคิดเห็นของนายอาโสะเรื่องการแปรรูปกิจการของเจแปน โพสต์ โฮลดิ้ง นั้นเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสม ขณะที่ประชาชน 36.5% สนับสนุนการออกมาแสดงความเห็นของอดีตนายกฯโคอิซูมิ