ฮิลลารี คลินตัน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ ออกเดินทางมุ่งหน้าสู่กรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้แล้ว เมื่อเวลา 15.30 น.วันนี้ ภายหลังเสร็จสิ้นภารกิจสองวันในอินโดนีเซีย
โดยในระหว่างปฏิบัติภารกิจในกรุงจาการ์ตา รมว.ต่างประเทศสหรัฐ ได้พบปะกับประธานาธิบดีซูสิโล บัมบัง ยุดโดโยโน และนายฮัสซัน วิรายุดา รมว.ต่างประเทศอินโดนีเซีย รวมถึงนายสุรินทร์ พิศสุวรรณ เลขาธิการอาเซียน ณ สำนักเลขาธิการอาเซียนซึ่งตั้งอยู่ในกรุงจาการ์ตาด้วย
ดีโน แพตติ จาลาล โฆษกประธานาธิบดีอินโดนีเซีย กล่าวในการแถลงข่าวภายหลังการหารือกันระหว่างนายยุดโดโยโยและนางคลินตันว่า รมว.ต่างประเทศสหรัฐได้แสดงความชื่นชมอินโดนีเซียสำหรับความพยายามในการสร้างความสามัคคีปรองดองในหมู่ชาวมุสลิม รวมไปถึงส่งเสริมประชาธิปไตย ความทันสมัย และสิทธิสตรี พร้อมทั้งกล่าวยกย่องความเป็นผู้นำของอินโดนีเซียในการประชุมระดับนานาชาติ และความพยายามที่จะต่อสู้กับผลกระทบของภาวะโลกร้อน
ด้านนายยุดโดโยโนได้กล่าวย้ำถึงความสำคัญของกระบวนการเจรจาเพื่อยุติความขัดแย้งในตะวันออกกลาง ซึ่งเป็นประเด็นที่สร้างความวิตกให้แก่ชุมชนมุสลิมในอินโดนีเซียที่มีประชากรนับถือศาสนาอิสลามมากที่สุดในโลก
ประธานาธิบดีอินโดฯ ยังได้ชื่นชมแผนการของประธานาธิบดีบารัค โอบามา ที่ต้องการปรับปรุงความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐกับโลกมุสลิม พร้อมกับขอให้สหรัฐมีบทบาทมากขึ้นในการสร้างสันติภาพในตะวันออกกลาง โดยชี้ว่า การหยุดยิงในกาซ่าขณะนี้ยังเปราะบาง และจำเป็นที่จะต้องทำให้การหยุดยิงดังกล่าวยั่งยืนในระยะยาว
สำหรับด้านเศรษฐกิจนั้น ยุดโดโยโนได้เน้นย้ำถึงความจำเป็นในการรักษาเสถียรภาพของความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างสหรัฐและอินโดนีเซีย ซึ่งปัจจุบันมีมูลค่าอยู่ที่ 2.01 หมื่นล้านดอลลาร์ และการลงทุนของสหรัฐในอินโดนีเซียมีมูลค่าแตะ 1.06 หมื่นล้านดอลลาร์ในปี 2551 ขณะที่การส่งออกของอินโดนีเซียไปยังสหรัฐลดลงกว่าครึ่ง เนื่องจากวิกฤตเศรษฐกิจโลกได้ส่งผลกระทบต่อความต้องการสินค้าหลายประเภท สำนักข่าวซินหัวรายงาน