คลินตันเรียกร้องโสมแดงยุติการปล่อยขีปนาวุธ พร้อมตั้งทูตพิเศษสหรัฐดูแลประเด็นเกาหลีเหนือ

ข่าวต่างประเทศ Friday February 20, 2009 11:01 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ฮิลลารี คลินตัน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ ประกาศว่า สตีเฟน บอสเวิร์ธ จะทำหน้าที่ทูตพิเศษสหรัฐผู้รับผิดชอบประเด็นเกาหลีเหนือ หลังจากที่เขาเคยดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตสหรัฐประจำเกาหลีใต้มาก่อนในระหว่างปี 2540-2543

การประกาศข่าวการแต่งตั้งดังกล่าวมีขึ้นในระหว่างการแถลงข่าวร่วมกับนายยู เมียง-ฮวาน รมว.ต่างประเทศเกาหลีใต้ ภายหลังจากทั้งคู่เสร็จสิ้นการหารือกันในประเด็นต่างๆ โดยเฉพาะเรื่องเกาหลีเหนือ ซึ่งเป็นประเด็นระดับภูมิภาคที่ทั้งสหรัฐและเกาหลีใต้ให้ความสำคัญอย่างมาก

โดยนางคลินตัน ซึ่งอยู่ระหว่างปฏิบัติภารกิจในกรุงโซล เป็นจุดหมายที่สามของการเดินทางเยือนภูมิภาคเอเชียสี่ประเทศ ได้เรียกร้องให้เกาหลีเหนือยุติการทำกิจกรรมทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับการทดสอบยิงขีปนาวุธ ตามที่มีรายงานข่าวว่าเกาหลีเหนือกำลังเตรียมการปล่อยขีปนาวุธพิสัยไกล ขณะที่เกาหลีเหนือกล่าวว่าตนมีสิทธิทำการวิจัยด้านอวกาศและได้ปฏิเสธแผนการดังกล่าว

ด้านนายยูแสดงความกังวลอย่างยิ่งเกี่ยวกับโครงการทดลองยิงขีปนาวุธของเกาหลีเหนือ พร้อมกล่าวว่าความเคลื่อนไหวดังกล่าวจะเป็นการฝ่าฝืนมติของสหประชาชาติที่มีการประกาศรับรองเมื่อปี 2549 และจะทวีความตึงเครียดในภูมิภาค

รมว.ต่างประเทศเกาหลีใต้และสหรัฐเห็นพ้องกันว่าจะผลักดันให้เกาหลีเหนือยุติโครงการนิวเคลียร์ทั้งหมดผ่านการเจรจา 6 ฝ่าย ซึ่งประกอบไปด้วย สหรัฐอเมริกา เกาหลีใต้ เกาหลีเหนือ ญี่ปุ่น จีน และรัสเซีย หลังจากที่การเจรจาหยุดชะงักไปเนื่องจากความคิดเห็นที่แตกต่างเรื่องการยืนยันความถูกต้องของข้อมูลนิวเคลียร์ในอดีตของเกาหลีเหนือ

ทั้งนี้ นอกจากประเด็นเกาหลีเหนือแล้ว นางคลินตันและนายยูยังได้พูดคุยกันในเรื่องความร่วมมือระดับทวิภาคีต่อวิกฤตการเงินโลก ภาวะโลกร้อน และข้อตกลงเปิดเสรีการค้า

คลินตันเดินทางถึงกรุงโซลเมื่อช่วงค่ำวานนี้ หลังจากที่เสร็จสิ้นภารกิจในญี่ปุ่นและอินโดนีเซีย และเธอมีกำหนดการเดินทางเยือนประเทศจีนต่อจากเกาหลีใต้

โดยในวันนี้ นางคลินตันจะหารือกับประธานาธิบดีลี เมียง บัค ในระหว่างรับประทานอาหารกลางวันร่วมกัน และจะพบปะกับนายกรัฐมนตรี ฮัน เซือง ซู ก่อนเดินทางต่อไปยังกรุงปักกิ่ง เป็นจุดหมายสุดท้ายในภารกิจเยือนต่างประเทศครั้งแรกในฐานะรมว.ต่างประเทศสหรัฐ สำนักข่าวเกียวโดรายงาน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ