นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) กล่าวว่า การเคลื่อนไหวของกลุ่มคนเสื้อแดงที่จะมาปิดล้อมทำเนียบรัฐบาลจะไม่มีการบุกรุกเข้าภายในทำเนียบฯ อย่างแน่นอน ดังนั้น การที่รัฐบาลจัดเตรียมกำลังทหาร และตำรวจ 3-4 พันคน รักษาความปลอดภัยทั้งภายในและภายนอกทำเนียบฯ ไม่ได้เกิดประโยชน์ใด ๆ เพราะกลุ่มผู้ชุมนุมไม่ได้มีการขัดขวางการทำงานของรัฐบาล หากรัฐบาลจะมีการประชุมคณะรัฐมนตรีก็สามารถทำได้
ทั้งนี้ การชุมุนมของกลุ่ม นปช.จะเคลื่อนไหวในกรุงเทพฯเท่านั้น จะไม่มีการเคลื่อนย้ายการชุมุนมไปที่ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งเป็นสถานทีจัดการประชุมอาเซียนซัมมิทในสัปดาห์นี้ ส่วนจะย้ายการชุมนุมไปสถานที่ใดในกกรุงเทพฯหรือไม่ยังไม่สามารถบอกได้ แต่จะมีการประเมินสถานการณ์วันต่อวัน
นายจตุพร กล่าวว่า สำหรับจำนวนของผู้ที่จะเข้าร่วมชุมนุมในครั้งนี้ยังไม่สามารถบอกได้ เนื่องจากผู้ที่เข้ามาร่วมชุมนุมไม่ได้ถูกเกณฑ์หรือว่าจ้างมา แต่คาดว่าเวลาประมาณ 10.00 น. น่าจะประเมินจำนวนผู้ชุมนุมได้แล้ว
"ยังยืนยันว่าจะไม่มีกลุ่มคนเสื้อแดง บุกเข้าไปในทำเนียบฯ หากมีเราจะดำเนินการเด็ดขาด ...ส่วนการดำเนินการต่อไปว่าจะชุมนุมยืดเยื้อกี่วัน หรือเคลื่อนย้านการชุมนุมไปไหนจะประเมินวันต่อวัน"นายจตุพร กล่าว
นายจตุพร กล่าวถึงกระแสข่าวที่มีว่าจะมีการส่งตำรวจ-ทหารเข้ามาปะปนแทรกซึมกับกลุ่มผู้ชมุนม เพื่อทราบข้อมูลและประเมินสถานการณ์รับมือนั้น หากพบว่ามีเจ้าหน้าที่ของกองทัพ ทางกลุ่มจะส่งตัวให้ผบ.ทบ. ดำเนินการ แต่หากเป็นพลเรือนจะส่งเรื่องให้นายกรัฐมนตรีดำเนินการ
แกนนำ นปช. กล่าวอีกว่า การข้อเรียกร้องของกลุ่มผู้ชุมนุมเพื่อแสดงออกให้นานาชาติรับรู้ว่าคนไทยไม่ยอมรับรัฐบาลที่นำคนกระทำผิดปิดสนามบินมาเป็นตัวแทนบริหารประเทศ ซึ่งข้อเรียกร้องของ นปช. 4 ข้อ เป็นสิ่งที่รัฐบาลทำได้ และไม่เกินกำลังความสามารถของรัฐบาลประชาธิปไตย
"ถ้าเราไม่มาชุนุม ต่างชาติก็จะมองว่าเป็นเรื่องแปลกที่คนไทยไม่รู้สึกรู้สา กับการที่เอาคนปิดสนามบินมาเป็นตัวแทน แต่รัฐบาลต่างหาก ที่ไม่เห็นแก่หน้าตาของประเทศ ที่เอาคนแบบนี้ ไปเป็นตัวแทน" แกนนำ นปช. กล่าว
ทั้งนี้ กลุ่ม นปช. ได้นัดรวมตัวกันที่สนามหลวงในเวลา 9.00 น.จากนั้นจะเริ่มการเปิดเวทีปราศรัย และในเวลา 10.00 น. จะเริ่มเคลือนย้ายการชุมนุมไปทำเนียบรัฐบาล