แกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผดจการแห่งชาติ(นปช.) ประกาศยกระดับการชุมนุมขับไล่รัฐบาล เพื่อเพิ่มความเข้มข้นมากขึ้นกว่าเดิม หลังข้อเรียกร้อง 4 ข้อที่ยื่นให้นายกรัฐมนตรีไม่ได้รับการตอบสนอง แต่ยืนยันยังยึดหลักสันติอหิงสา ไม่ใช้ความรุนแรง
"(แกนนำ)จะหารือเพื่อเตรียมยกระดับการชุมนุมจากที่เคยเรียกร้องให้รัฐบาลดำเนินการ 4 ข้อที่เคยยื่นไปมาเป็นขับไล่รัฐบาล โดยจะไม่มีการใช้ความรุนแรง แต่จะเพิ่มความเข้มด้วยการชุมนุมยืดเยื้อ การกระจายการชุมนุมออกเป็นจุดๆ และส่งชุดติดตามการทำงานของรัฐบาล ไม่ว่ารัฐบาลเดินทางไปที่ไหนก็จะพบกับคนกลุ่มเสื้อแดง" นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ หนึ่งในแกนนำกลุ่ม นปช.กล่าว
ทั้งนี้ กลุ่ม นปช.ได้ยื่นข้อเรียกร้องให้รัฐบาลเร่งดำเนินคดีกับแกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย, ปลดนายกษิต ภิรมย์ ออกจากตำแหน่ง รมว.ต่างประเทศ และแก้ไขรัฐธรรมนูญ
"กรณีการออกหมายจับแกนนำกลุ่มพันธมิตรฯ 21 คน ที่ร่วมกันปิดสนามบินและยึดทำเนียบรัฐบาล ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีความชัดเจน อีกทั้งยังทราบมาว่าการออกหมายจับครั้งนี้จะไม่มีชื่อของนายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ จึงอยากให้รัฐบาลตอบคำถามว่า นายกษิตอยู่ในฐานะอะไร เป็นว่าที่ผู้ต้องหาหรือเป็นคนของพันธมิตรฯที่ส่งมาขี่คอรัฐบาล หากนายกษิตไม่ถูกออกหมายจับเท่ากับว่ารัฐบาลชุดนี้ไม่มีความน่าเชื่อถือ" นายณัฐวุฒิ กล่าว
แกนนำกลุ่ม นปช.ยังกล่าวอีกว่า เมื่อวันที่ 25 ก.พ.ที่ผ่านมา การ์ด นปช.ได้ควบคุมตัว ส.อ.อำนวย ทองอินทร์ ทหารสังกัดกองทัพภาคที่ 1 ที่เข้ามาสังเกตการณ์ชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดง โดย พ.อ.สุชาติ พรหมใหม่ ผู้บังคับบัญชาของทหารนายดังกล่าวออกมายอมรับว่าได้ส่งมาสังเกตการณ์และดูแลความเรียบร้อยให้กับสถานที่ราชการโดยรอบ
"รัฐบาลออกปฏิเสธลอยๆ ผมยังได้รับข้อมูลว่าทหารกลุ่มดังกล่าวเคยทำหน้าที่เป็นการ์ดให้กับกลุ่มพันธมิตรฯ แต่ตอนนี้ยังไม่หลักฐานชัดเจน จึงยังไม่ขอกล่าวหา" นายณัฐวุฒิ กล่าว
ส่วนระยะเวลาในการชุมนุมนั้น นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า ขณะนี้แกนนำยังไม่มีการพูดคุยกันถึงเรื่องยุติการชุมนุม มีแต่การประเมินของคนในรัฐบาล ทหาร และตำรวจเพียงฝ่ายเดียว ซึ่งหาก นปช.จะยุติการชุมนุมสามารถทำได้ในวันนี้หรืออีก 3 เดือนก็ได้ แต่ขึ้นอยุ่กับมติของกลุ่มคนเสื้อแดง
ด้านนายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำกลุ่ม นปช.อีกคน กล่าวว่า วันนี้ถือเป็นวันสุกดิบ เนื่องจากในวันที่ 27 ก.พ.นี้จะมีการจัดประชุมอาเซียนซัมมิท แต่ขณะนี้มีการปล่อยข่าวว่าการชุมนุมของกลุ่มเสื้อแดงและการอภิปราบไม่ไว้วางใจรัฐบาลจะนำไปสู่การจับมือจัดตั้งรัฐบาลแห่งชาติระหว่างพรรคประชาธิปัตย์กับพรรคเพื่อไทย ซึ่งขอยืนยันว่ากลุ่มเสื้อแดงกับพรรคประชาธิปัตย์ไม่สามารถร่วมกันได้ การปล่อยข่าวเรื่องนี้ถือว่าไม่เป็นเรื่องดีกับใคร ซึ่งคนของพรรคเพื่อไทยที่มีความคิดเช่นนี้ถือว่าเลวสิ้นดี การชุมนุมของกลุ่มเสื้อแดงเพื่อต้องการเรียกร้องประชาธิปไตย ซึ่งไม่มีเงื่อนไขต่อรอง
"กลุ่มคนเสื้อแดงไม่สนับสนุนให้พรรคเพื่อไทยจัดตั้งรัฐบาลร่วมกับพรรคประชาธิปัตย์ ถ้าใครคิดอย่างนั้นก็ถือว่าเป็นศัตรูและไม่ต้องมาเผาผีกัน เราเคลื่อนไหวขับไล่รัฐบาลชุดนี้เพราะการจัดตั้งรัฐบาลขาดความชอบธรรม เนื่องจากมีทหารและอำมาตย์บางคนเข้ามาแทรกแซง อีกทั้งยังมีการสมคบกันระหว่างกลุ่มพันธมิตรฯ" นายจตุพร กล่าว
ขณะที่นายจักรภพ เพ็ญแข กล่าวปฏิเสธข่าวได้รับเงินทุนในการเคลื่อนไหวจาก พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่า ไม่เป็นความจริง ทุกวันพยายามจะแสดงยอดเงินบริจาคเพื่อให้เห็นว่า กลุ่ม นปช.สามารถดูแลตัวเองได้ โดย 2 วันของการชุมนุมได้รับเงินบริจาคกว่า 7 แสนบาท ขณะที่มีค่าใช้จ่ายในส่วนต่างๆ ประมาณ 3 แสนบาท