ครม.วันนี้ทบทวนวงเงินรถไฟฟ้าสีแดง-เว้นค่าธรรมเนียมรายปี รง.สู้วิกฤติ

ข่าวการเมือง Tuesday March 3, 2009 09:43 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาล แจ้งว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) วันนี้ กระทรวงคมนาคมจะเสนอให้พิจารณาปรับปรุงค่าใช้จ่ายในการดำเนินโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีแดงช่วงรังสิต-บางซื่อ ของการรถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท.) ใหม่อีกครั้ง เนื่องจากขณะนี้มูลค่าโครงการเปลี่ยนแปลงไปตามสภาวะเศรษฐกิจ เพื่อให้ทราบว่าค่าใช้จ่ายโครงการโดยรวมจะเป็นเท่าไร โดยในส่วนของเงินกู้ กระทรวงการคลังจะเป็นผู้ประสานแหล่งเงินกู้ให้

กระทรวงการคลัง จะเสนอร่าง พ.ร.ฎ.ออกตามความในประมวลรัษฎากร อันเป็นมาตรการทางภาษีเพื่อกระตุ้นและฟื้นฟูเศรษฐกิจ โดยคณะกรรมการกฤษฎีกาได้ตรวจร่างเสร็จเรียบร้อยแล้ว เพื่อให้มีผลบังคับใช้อย่างเป็นทางการเช่นกัน โดยมีสาระสำคัญ คือ การยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาและภาษีเงินได้นิติบุคคล สำหรับเงินได้ที่ได้จ่ายเป็นค่าใช้จ่าย เพื่อการได้มาซึ่งทรัพย์สินประเภทวัสดุ อุปกรณ์ หรือเครื่องจักรที่มีผลต่อการประหยัดพลังงาน แต่ไม่รวมถึงยานพาหนะ และวัสดุอุปกรณ์ หรือเครื่องจักรที่ใช้กับยานพาหนะเป็นจำนวน 25% ของค่าใช้จ่ายนั้น

โดยทรัพย์สินดังกล่าวต้องไม่เคยผ่านการใช้งานมาก่อน ขณะเดียวกันต้องอยู่ในสภาพพร้อมใช้งานได้ตามประสงค์ตั้งแต่วันที่กฎหมายฉบับนี้มีผลบังคับใช้จนถึงวันที่ 31 ธ.ค.53 และต้องได้รับการรับรองจากกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงานว่าเป็นวัสดุ อุปกรณ์ หรือเครื่องจักรที่มีผลต่อการประหยัดพลังงานภายในวันที่ 31 ธ.ค.53 รวมทั้งต้องไม่มีลักษณะต้องห้ามและต้องหักค่าสึกหรอและค่าเสื่อมราคาเป็นระยะเวลาไม่น้อยกว่า 5 ปี นับแต่วันที่ทรัพย์สินนั้นอยู่ในสภาพพร้อมที่จะใช้งานได้ตามประสงค์

รวมทั้งเสนอความเห็นและข้อเสนอของสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเรื่อง การจัดตั้งกองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติ(Sovereing Wealth Fund:SWF) ของประเทศไทย

กระทรวงอุตสาหกรรม เสนอร่างกฎกระทรวงว่าด้วยการยกเว้นค่าธรรมเนียมรายปีแก่โรงงานทุกประเภท หลังจากคณะกรรมการกฤษฎีกาได้ตรวจพิจารณารายละเอียดเรียบร้อยแล้วเพื่อออกประกาศใช้อย่างเป็นทางการต่อไป เนื่องจากผู้ประกอบการได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจตั้งแต่ปี 51 และต่อเนื่องจนถึงปี 52 โดยพบว่าดัชนีผลผลิตภาคอุตสาหกรรมในไตรมาส 4/51 ติดลบถึง 2.0% และคาดว่าในปี 52 จะขยายตัวเพียง 1-2% เท่านั้น ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดการว่างงานไม่ต่ำกว่า 1 ล้านคน ดังนั้นจึงต้องลดภาระให้กับผู้ประกอบการและช่วยรักษาการจ้างงานไว้ให้มากที่สุด ขณะเดียวกันยังสอดคล้องกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล

กระทรวงพาณิชย์ เสนอร่าง พ.ร.บ.คลังสินค้า ไซโล และห้องเย็น ที่ต้องการให้รัฐเข้าไปกำกับดูแลการประกอบกิจการคลังสินค้า ไซโล และห้องเย็น เพื่อให้การดำเนินงานเป็นไปอย่างสุจริตถูกต้องและไม่ให้ผู้ที่เกี่ยวข้องได้รับความเดือดร้อนจากการได้รับสินค้าที่ชำรุดเสียหาย

นอกจากนี้ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ยังขออนุมัติโอนงบประมาณรายจ่ายอื่นเป็นเงินประเภทราชการลับและเสนอกรอบอัตรากำลังพนักงานราชการทดแทนอัตรากำลังข้าราชการที่เกลี่ยไปปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้, ร่าง พ.ร.ฎ.จัดตั้งหอภาพยนตร์(องค์การมหาชน), กระทรวงยุติธรรมเสนอร่างกฎกระทรวงกำหนดวิธีการยื่นคำร้อง เงื่อนไข และการอนุญาตขอคืนสิ่งของที่เจ้าพนักงานยึดไว้ไปดูแลรักษาหรือใช้ประโยชน์


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ